จากกรณี เมื่อเวลา 17.30 น วันที่ 6 มีนาคม 68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากคุณนุ้ย อายุ 44 ปี นักธุรกิจส่วนตัว หลังพาคุณพ่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี แล้วพบเจอสิ่งที่ไม่เชื่อสายตา เพราะสามีเฝ้าไข้คุณพ่ออยู่ (พ่อตา) แต่หลังเวลา 20:00 น. กับพบว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ มีพยาบาลนำโซ่สายยูพร้อมกุญแจ คล้องปิดประตูทางเข้าออก ไม่ให้คนเฝ้าไข้ สามารถออกไปข้างนอกได้เลยหลังเวลา 20.00 น. จนถึงช่วงเวลาเช้า
โดยเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา พ่อตาของตน อายุ 70 ปี ป่วยด้วยโรคประจำตัว และนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตามกฎระเบียบ สามารถให้คนเฝ้าไข้ได้เตียงละ 1 คน ในคืนวันเดียวกัน สามีตนได้กลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านและเดินทางไปที่โรงพยาบาลช่วงเย็นเพื่อเฝ้าไข้ พอหลัง 20.00 น. สามีรู้สึกหิวข้าว จึงเตรียมโทรสั่งอาหารในแอปฯ ให้มาส่งและได้ไปแจ้งพยาบาลให้ทราบ แต่พยาบาลพูดว่า หลัง 2 ทุ่มออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นจนกว่าจะถึงเช้า ไม่เห็นเหรอว่าประตูล็อก คล้องกุญแจไว้
เมื่อสามีตนเดินไปดูที่ประตูทางเข้าห้องผู้ป่วย พบว่ามีสายยูพร้อมลูกกุญแจคล้องล็อกประตูไว้จากด้านใน ไม่ให้ใครออกไปไหน สามีตนพยายามขอร้องว่า รู้สึกหิวข้าว แต่ก็ได้รับการปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใยจากพยาบาล
ตนไม่เข้าใจว่าพวกเขาเรียนพยาบาลมา ต้องมีความเมตตา ให้บริการประชาชน ไม่ใช่ไร้จิตสำนึกแบบนี้ วันรุ่งขึ้นพ่อตนมีอาการหนัก ต้องส่งตัวเข้าห้อง ICU ตนจึงรีบไปที่โรงพยาบาล พบว่าที่เตียงของคุณพ่อเปียกฉ่ำไปด้วยน้ำทั้งเตียง คุณพ่อมีอาการหนาวสั่น จึงได้โวยวายกับพยาบาล ก็ได้รับคำตอบว่า เพิ่งเช็ดตัวคุณพ่อเสร็จก็ต้องเปียกเป็นธรรมดา ต่อมา พบว่าคุณพ่อติดเชื้อในกระแสเลือด ก่อนนอนรักษาตัวในห้อง ICU จนถึงขณะนี้
ตนไม่เข้าใจว่า ทำไมหลังเวลา 20.00 น. ต้องมีการคล้องกุญแจจากด้านใน ไม่ให้คนเฝ้าไข้ออกไปข้างนอกเลยเหรอ แล้วถ้าเกิดเหตุไฟไหม้จะทำอย่างไร จะต้องมานั่งไขกุญแจเสี่ยงหนีตายกันแบบนี้ใช่ไหม ตนอยากขอให้ผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้ ออกมาชี้แจงกฎว่า ทำไมถึงต้องมีการคล้องกุญแจปิดประตูหลัง 20.00 น. ทำแบบนี้ตนมองว่ามันเหมือนไม่ใช่พาคุณพ่อไปโรงพยาบาล แต่พาไปติดคุกมากกว่า
