ปภ. สรุปเหตุการณ์ แผ่นดินไหว 57 จังหวัดสั่นสะเทือน 13 จว.-กทม.ได้รับความเสียหาย แจงส่ง SMS แจ้งเตือนประชาชนรวม 4 ครั้ง พร้อมลุยเยียวยา-ช่วยเหลือ
วันที่ 29 มี.ค.2568 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวและความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวว่า จากกรณีเหตุแผ่นดินไหวศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา ขนาด 8.2 ลึก 10 กิโลเมตร ในช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.)
ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง สามารถรับรู้แรงสั่นไหวได้ในพื้นที่รวม 57 จังหวัด ได้แก่
- เชียงใหม่
- เชียงราย
- ลำพูน
- น่าน
- แม่ฮ่องสอน
- ลำปาง
- พะเยา
- แพร่
- ตาก
- กำแพงเพชร
- นครสวรรค์
- พิจิตร
- พิษณุโลก
- เพชรบูรณ์
- สุโขทัย
- อุตรดิตถ์
- อุทัยธานี
- กาฬสินธุ์
- ขอนแก่น
- ชัยภูมิ
- นครพนม
- นครราชสีมา
- บุรีรัมย์
- มหาสารคาม
- ยโสธร
- เลย
- สกลนคร
- อุดรธานี
- ชัยนาท
- นครนายก
- นครปฐม
- นนทบุรี
- ปทุมธานี
- พระนครศรีอยุธยา
- ลพบุรี
- สมุทรปราการ
- สมุทรสงคราม
- สมุทรสาคร
- สิงห์บุรี
- สุพรรณบุรี
- สระบุรี
- อ่างทอง
- จันทบรี
- ฉะชิงเทรา
- ชลบุรี
- ปราจีนบุรี
- ระยอง
- สระแก้ว
- กาญจนบุรี
- ประจวบคีรีขันธ์
- เพชรบุรี ราชบุรี
- กระบี่
- ชุมพร
- นครศรีธรรมราช
- ระนอง
- สุราษฎร์ธานี
- รวมถึงกรุงเทพมหานคร
โดยมีแผ่นดินไหวตาม (Aftershock) ขนาด 2.8 – 7.1 รวม 56 ครั้ง
นายภาสกร กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานความเสียหาย 13 จังหวัด และกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิต จำนวน 9 ราย ผู้บาดเจ็บ จำนวน 9 ราย และผู้สูญหาย จำนวน 101 ราย ปัจจุบันมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานีและแพร่ รวมทั้งกรุงเทพมหานครที่มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติเต็มพื้นที่
ในส่วนของความเสียหายในพื้นที่จังหวัดอื่นนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานความเสียหายจาก 14 จังหวัด ดังนี้
- เชียงใหม่
-อาคารจอดรถโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
-อาคารคอนโดศุภาลัยมอนเต้ 1 และ 2 ผนังเกิดความเสียหาย
-อาคารดวงตะวันคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น โครงสร้างได้รับความเสียหาย
-วัดสันทรายต้นกอกมีเจดีย์ร้าว
-อ.ดอยเต่า ส่วนต่อเติมบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ 1 หลัง
-อ.พร้าว ต.ทุ่งหลวง ม.6 บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 2 หลัง ,ต.สันทราย บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 1 หลัง
-อ.หางดง ต.หางดง หลังคาของอาคารหอพักรัชดาได้รับความเสียหายจากแทงค์น้ำตกจากเสา กำแพงบ้านประชาชนล้มประมาณ 10 เมตร
-อาคารโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 มีรอยร้าวตามอาคารเรียน
-วัดน้ำล้อม ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง วิหารมีรอยร้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- เชียงราย
-ผนังอาคารโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เกิดรอยร้าวเล็กน้อย
-หลังคาของอาคารวัฒนธรรม วัดท่าข้าม ต.ศรีดอนชัย ได้รับความเสียหายบางส่วน
-อ.ป่าแดด คานคอนกรีตบริเวณสถานีรถไฟป่าแดด (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) หล่นทับรถยนต์ จำนวน 6 คัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- ลำพูน
-อ.ป่าซาง ต.ปาซาง ซุ้มประตูวัดพาณิชน์สิทธิการามโค่นล้มเสียหาย ,ต.แม่แรง หอระฆังวัดดอนตอง เสียหาย
-อ.ลี้ ต.ป่าไผ่ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง ,ต.ลี้ บ้านเรือนเสียหาย 23 หลัง ผนังอาคารโรงพยาบาลลี้มีรอยร้าว
-อ.บ้านธิ ต.ห้วยหยาบ โรงเก็บไม้ถล่มเสียหาย
-อ.เมืองฯ ต.บ้านแป้น ซุ้มประตูบ้านผู้ใหญ่บ้านล้มเสียหาย ,ต.หนองช้างคืน โรงเก็บของพังเสียหาย ,ต.ริมปิง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง ,ต.ป่าสัก ระบบท่อประปาหมู่บ้านเสียหาย ,ต.เหมือนจี้ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง ,ต.มะเขือแจ้ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง ,ต.เหมืองง่า หลังคาโบสถ์วัดบ้านหลุกเสียหาย,ต.ต้นธง ผนังอาคาร รพ.ลำพูน เสียหาย
-อ.บ้านโฮ่ง ต.บ้านโฮ่งหอนาฬิกาบ้านห้วยกาน เสียหาย ,ผนังอาคาร รพ.บ้านโฮ่ง เสียหาย ต.หนองปลาสวาย ,บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง ,เมรุวัดสันเจดีย์ริมปิง เสียหาย
-อ.เวียงหนองล่อง ต.หนองล่อง อาคารที่ว่าการอำเภอเวียงหนองล่อง มีรอยร้าว
-อ.แม่ทา ต.ทาสบเส้า ผนังอาคาร รพ.แม่ทา มีรอยร้าว ,อาคารสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่ทามีรอยร้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- ลำปาง
-อ.สบปราบ ต.สมัย บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง สำนักสงฆ์ 1 แห่ง
-อ.เกาะคา ห้องน้ำกองร้อย อส.อำเภอเกาะคา เสียหาย ,ศาลาวัดลำปางหลวงเกิดรอยร้าว
-อ.เมืองฯ อาคาร รพ.ลำปาง มีรอยร้าว ,เสาอาคาร มทร.ล้านนาลำปางเสียหาย
-อ.แม่ทะ ต.บ้านกิ่ว บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง ,ต.นาครัว บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง โรงรถ 1 แห่ง ,อาคาร อบต.บ้านกิ่ว มีรอยร้าว 2 หลัง
-อ.แม่พริก ต.แม่พริก บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 10 หลัง ,อาคาร รพ.แม่พริก มีรอยร้าว
-อ.งาว ต.บ้านแหง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7 หลัง ,อาคารเก็บพืชผลการเกษตร 2 หลัง
-อ.ห้างฉัตร ต.ปงยางคก บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง ,ต.แม่สัน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง ,ต.ห้างฉัตร วัดพระธาตุปางม่วง เสียหาย
-อ.วังเหนือ ต.วังซ้าย กุฏิวัดบ้านสบม่าเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- แม่ฮ่องสอน
-อาคารศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังใหม่มีร้อยร้าว
-อ.ปาย ศาลาริมทางแหล่งท่องเที่ยวกองแลน ,อาคารโรงพยาบาลปาย โรงเก็บกระเทียม ได้รับความเสียหาย
-อ.ขุนยวม อาคารโรงพยาบาลขุนยวม มีรอยร้าว
-อ.สบเมย ทางเดินเชื่อมอาคารโรงพยาบาลสบเมย ได้รับความเสียหายไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แพร่
-อ.เมืองฯ โรงจอดรถภายในบ้านเลขที่ 234 ต.ป่าแมต ได้รับความเสียหายบางส่วน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- เพชรบูรณ์
-อ.เมืองฯ อาคารโรงเรือนการเกษตร ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- สุโขทัย
-อ.ศรีสำโรง อาคารโรงยาสูบ เสียหาย 1 หลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
กรุงเทพมหานคร
-เขตจตุจักร อาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักรลักษณะเป็นอาคารระหว่างการก่อสร้าง สูง 30 ชั้น เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 8 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย ผู้สูญหาย 101 ราย
-เขตบางซื่อ เครนก่อสร้างถล่ม บริเวณแยกบางโพ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
- พระนครศรีอยุธยา
-อ.ลาดบัวหลวง แทงก์น้ำทรุดตัวในพื้นที่ ม.6,7 ต.สิงหนาท ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- นนทบุรี
-อ.เมืองฯ รพ.พระนั่งเกล้า ฝ้าเพดานบนชั้น 17 ร่วง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ตัวอาคารมีรอยแตกร้าวและร่วงลงพื้น 3 จุด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- สมุทรปราการ
-อ.พระประแดง วัดโปรดเกศเชษฐาราม ม.11 ต.ทรงคนอง ระเบียงบริเวณด้านหน้าโบสถ์เกิดการแตกร้าวเล็กน้อย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- สมุทรสาคร
-อ.เมืองฯ อาคาร รพ.สมุทรสาคร มีรอยร้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
- ชัยนาท
-อ.เมืองฯ เมรุวัดลัดเสนาบดี เสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
นายภาสกร กล่าวว่า ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ในทุกพื้นที่ได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสาธารณะกุศล ภาคเอกชน และจิตอาสา และพลเรือน ได้เข้าให้การช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการปฏิบัติของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เมื่อคืนนั้น ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระดมทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) จำนวน 48 นาย พร้อมอุปกรณ์ค้นหาสัญญาณชีพและอุปกรณ์พิเศษเข้าสนับสนุนการปฏิบัติให้กับกรุงเทพมหานครในบริเวณจุดที่มีอาคารถล่มและมีผู้ติดค้างและสูญหาย
และได้ร่วมกับ กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือส่ง SMS แจ้งประชาชน จำนวน 4 ครั้ง
- เวลา 14.42 น. แจ้งประชาชนสามารถเข้าอาคารได้กรณีจำเป็น
- เวลา 16.07 น. แจ้งข้อควรปฏิบัติกรณีเกิดแผ่นดินไหว
- เวลา 16.09 น. แจ้งข้อควรปฏิบัติหลังเกิดแผ่นดินไหว
- เวลา 16.45 น. แจ้งประชาชนสามารถเข้าอาคารได้หากได้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารแล้ว และเพื่อให้เกิดเสถียรภาพในการทำงาน
นายภาสกร กล่าวอีกว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมพร้อมกำลังพลและเครื่องจักรกลสาธารณภัยของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทั้ง 18 ศูนย์เขต เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ และเตรียมพร้อมสนับสนุนหากได้รับการร้องข้อ
ปัจจุบัน ปภ.ได้ส่งกำลังพลพร้อมด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย กว่า 14 รายการ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 3 ปราจีนบุรี และเขต 16 ชัยนาท เข้าร่วมปฏิบัติการสนับสนุนการค้นหาผู้ประสบภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยกว่า 355 รายการ ให้พร้อมสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนของจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบตลอด 24 ชั่วโมง
นายภาสกร กล่าวว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะฝ่ายเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัด และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้ากรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะปักหลักติดตามสถานการณ์และประสานการให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ การให้ความช่วยเหลือ รวมถึงวิธีการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews
หากประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ผ่านไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป