หนุ่มตระเวนขอมีสัมพันธ์กับวัว ไม่เว้นแม้แต่สุนัข ชาวบ้านห้ามก็ไม่ฟัง ก่อนเจออีกที แก้ผ้าล่อนจ้อน แอบอยู่ข้างคอกวัว

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.68 เฟสบุ๊ค
Phongsakorn Hongjun
ได้โพสต์ข้อความระบุว่า หนุ่มตระเวนขออึ๊บวัวไม่เว้นแม้แต่หมา ชาวบ้านห้ามก็ไม่ฟัง พบแก้ผ้าล้อนจ้อนซุ่มข้างคอกวัว #บุรีรัมย์ 16 พฤษภาคม 2568 : เมื่อเวลา 18.00 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ให้มาช่วยจับกุมชายแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บบ้าน ตระเวนขอมีเพศสัมพันธ์กับวัวของชาวบ้านแบบซึ่งหน้า และไม่ยอมออกจากพื้นที่ สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวได้นำส่งโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เพราะพูดจาวกวนคล้ายคนหลอนยาเสพติด

เดินทางไปตรวจสอบพบนายชัยศักดิ์ เขียมรัมย์ (เจ้าของวัว) อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 ม.5 ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ โดยนายชัยศักดิ์ เล่าว่า ช่วงนั้นตนกำลังต้อนวัวเข้าคอก ได้มีชายแปลกหน้าคนหนึ่งทราบชื่อต่อมานาย อิทธิพร เกตุมณี อายุ 37 ปี ที่อยู่ 454 ม.17 ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้ามาหาที่บ้าน

บอกว่าขอมีเพศสัมพันธ์กับวัวของตน ตนจึงพยายามไล่ออกไป พร้อมตักเตือนว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แต่ชายคนดังกล่าวไม่สนใจบอกอีกว่า ถ้าไม่ให้เอากับวัวก็ขอเอากับสุนัขก็ได้

แต่นายอิทธิพร ไม่ยอม ตกค่ำยังย้อนกลับมาอีกพยายามซ่อนตัวใกล้คอกวัว โดยยังขอให้เขา “สำเร็จความใคร่กับวัว” ก่อนถึงจะยอมไป ตนจึงแจ้งผู้นำชุมชนให้ชาวบ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ

ปรากฎว่าพบนายอิทธิพร อยู่ด้านหลังคอกวัวในสภาพแก้ผ้าล้อนจ้อน เมื่อนายอิทธิพร เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้ปีนขึ้นต้นไม้หนีเจ้าหน้าที่ ในสภาพไม่สวมอะไรเลย เจ้าหน้าที่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานแต่ไม่สำเร็จ

สุดท้ายเจ้าหน้าที่ได้ให้สัญญากับนายอิทธิพร ว่าถ้าลงมาจะเอาอะไรให้บอก จะเป็นวัว สุนัข หรือเด็กก็จะให้นายอิทธิพร จึงยอมลงมาก่อนเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัว ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น นายอิทธิพร พูดจาวกวนเหมือนหลอนอะไรบางอย่าง

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเสื้อผ้าที่กองไว้ พบเข็มฉีดยา สอบถามเบื้องต้นว่าเป็นเข็มฉีดยารักษาโรค HIV ซึ่งจากการสอบประวัติยังพบว่าเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ชาวบ้านคาดว่าน่าจะเสพยาจนเสียสติ  ด้านนางสาวจิราภรณ์ แสงกุดเลาะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ระบุว่า พฤติกรรมของนายอิทธิพรเป็นพฤติกรรมที่น่ากลัว เพราะชุมชนมีทั้งเด็กและคนชรา ถือว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของชุมชน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีก