วันที่ 25 เม.ย. 68 พ.ต.ท.ภาสกร โพธิ์ขำ สารวัตร (สอบสวน) สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนจมน้ำอยู่แม่น้ำมูล ระหว่างบ้านปลาค้าว ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ชีพ อบต.มะเฟือง อยู่ห่างจากหมู่บ้านปลาค้าว ไปประมาณ 2 กม.พบชาวบ้านกำลังช่วยกันงมหาร่าง ด.ญ.ปภาวี หรือน้องเฟรน อิ่มสอาด อายุ 8 ขวบ ที่นักเรียนชั้น ป.2 ที่จมลงในแม่น้ำก่อนหน้านี้ ท่ามกลางเสียงร้องให้ระงมของ
นางลัดดา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 9 บ้านปลาค้าว ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ แม่น้องเฟรนและญาติ ที่คอยลุ้นว่าจะพบร่างน้องขึ้นมาที่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะตาเด็กหญิงที่ป่วยติดเตียง หลังทราบข่าวร้องไห้ฟูมฟายได้ความเสียใจ เพราะจมหายผ่านไปแล้วประมาณ 1 ชม.จนกระทั่งหน่วยกู้ชีพและชาวบ้านได้ช่วยงมร่างน้องขึ้นมาได้ แต่น้องเสียชีวิตแล้ว
นางลัดดา แม่เด็กที่เสียชีวิต เล่าว่าตนพาลูกสาว 8 ปี มากับญาติรวมทั้งหมด 5 คนออกไปทุ่งนาเพื่อจะไปหาแหย่ไข่มดแดง โดยให้ลูกสาวอยู่กับป้าในร่มไม้ พอป้ามาบอกว่าลูกจมน้ำตกใจวิ่งมาไม่เห็นลูกสาวแล้ว ส่วนตัวเชื่อว่าเรือรั่วเพราะเป็นเรือของชาวบ้านที่จอดทิ้งไว้
สอบถามนายเศรฐกิจ ยังแก้ว อายุ18ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.9 บ้านปลาค้าว ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ คนพายเรือและเป็นหนึ่งเดียวจาก 4 คนในเรือที่ว่ายน้ำเป็น เล่าว่า ตนเห็นเรือจอดอยู่อยากจะพายเรือข้ามฝั่งแม่น้ำเล่น ระหว่างนั้นได้มีเด็ก 2 คนอายุ 7 ปีกับ 8 ปี วิ่งมาขอขึ้นด้วยตนก็ให้ไปเพราะมีป้านั่งมาด้วยอีกหนึ่งคน
พอขากลับถึงกลางแม่น้ำเด็ก 2 คนเล่นกันตนพยายามบอกว่าอย่าเล่นเดี๋ยวเรือล่ม ไม่ทันขาดคำเรือก็ล่ม ตนคว้าเด็กชาย 7 ขวบได้คนเดียว แล้วว่ายเข้าฝั่งก่อนจะวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านให้ชาวบ้านมาช่วยดังกล่าว
ด้านนางเพียน ชัยชนะ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 ม.9 บ้านปลาค้าว ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ อีกหนึ่งคนที่รอดชีวิต เล่าว่า ตนออกมากับ ด.ช.ธนภัทร์ หรือน้องภูผา พางาม อายุ7ปีหลานชาย
ก่อนเกิดเหตุเด็กทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกันกับตนใต้ร่มไม้ เห็นนายเศราฐกิจ วิดน้ำออกจากเรือ เด็กได้วิ่งไปกระโดดขึ้นเรือด้วย ตนเป็นห่วงจึงขึ้นเรือตามไป พอเรือข้ามฝั่งได้ ส่วนตัวรู้สึกไม่ดีจึงบอกให้นายเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหลานเช่นเดียวกันพากลับอีกฝั่งหนึ่งเพราะคิดว่าน้ำลึกแน่นอน
เมื่อเรือกลับไปถึงกลางแม่น้ำ เรือเกิดล่มลงทันที เห็นหลานชาย 7 ขวบกระโดดขี่คอหลานชาย 18 ปี ซึ่งว่ายน้ำเป็นว่ายน้ำไป ส่วนเด็กหญิง 8 ขวบที่เสียชีวิตนั่งส่วนหลังตนมองไม่เห็น รู้เพียงว่าตนจมน้ำแล้ว
นางเพียน เล่าว่าตนเองว่ายน้ำไม่เป็นมีความรู้สึกว่าค่อยๆจมน้ำไปเรื่อยๆ กินน้ำไปหลายอึก คิดในใจตายแน่นอน ได้ยินแต่เสียงหลาน 7 ขวบที่ขึ้นมาก่อนตะโกนว่าแม่ แม่ แต่ตนไม่ไหวแล้ว
จึงรวบรวมกำลังพยายามว่ายมาให้ใกล้ฝั่งที่สุด เหลืออีกไม่ไกลก็จะถึงฝั่ง ทันใดนั้นได้มีไม้ยื่นมาจึงคว้าเอาไม้ ลืมตาขึ้นมาเห็นหลานชาย 7 ปี ดึงไม้เอาตนเองเข้าฝั่งได้สำเร็จ ครั้งนี้ถือว่าหลานอายุเพียง 7 ปีช่วยชีวิตตนเอาไว้ได้
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.บุรีรัมย์ รายงาน
