คานถล่มพระราม 2 กระทบประชาชน เช้าวันจันทร์เผื่อเวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง เปิดเส้นทางเลี่ยง ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์การจราจร พบยังมีคนสับสนเส้นทาง
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 17 มี.ค.2568 ที่ด่านดาวคะนอง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ดูแลงานจราจร ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการจราจรบริเวณ ด่านดาวคะนอง ทางพิเศษเฉลิมมหานคร หลังเกิดเหตุคานสะพานก่อสร้างทรุดตัว ส่งผลให้การจราจรติดขัดและต้องมีการปรับแผนการสัญจรชั่วคราว
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้การรื้อถอนซากสะพานคืบหน้าไปแล้วกว่า 70% ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเจ้าหน้าที่ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่างานจะเสร็จภายใน 7 วัน อย่างไรก็ตาม แม้การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากวันจันทร์เป็นวันแรกของสัปดาห์ที่การจราจรหนาแน่นมาก
เพื่อบรรเทาผลกระทบ ทางการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และ กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ได้ร่วมกันวางแผนเปิดทางเบี่ยงให้ประชาชนใช้สัญจร โดยถนนบริเวณดังกล่าวมีความพร้อมสำหรับการเปิดใช้งาน ซึ่งหากประชาชนบางส่วนหลงเข้ามาในพื้นที่ ก็สามารถใช้เส้นทางขึ้นสะพานพระราม 9 ได้ แต่หากสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางได้ก็ขอให้หลีกเลี่ยง
ส่วนการจราจรขาออกจากกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ขอเวลา 30 วัน ในการรื้อถอน เนื่องจากวัสดุก่อสร้างที่ถล่มลงมามีขนาดใหญ่และรื้อถอนยาก อย่างไรก็ตาม จะพยายามเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วกว่ากำหนด
ด้าน พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า สภาพการจราจรช่วงเช้า ยังสามารถเคลื่อนตัวได้ดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยู่ในช่วงปิดเทอมทำให้ปริมาณรถลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังเวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ปริมาณรถจะเริ่มหนาแน่นมากขึ้น
- ถนนกาญจนาภิเษก → เอกชัย → เพชรเกษม
- ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก → พระประแดง
- ถนนบางขุนเทียนชายทะเล → บางบอน 1 → เอกชัย → ดาวคะนอง
โดยขณะนี้มีการ เปิดทางเบี่ยง 2 ช่องจราจร ซึ่งปกติใช้เป็นเส้นทางของผู้รับเหมาที่ก่อสร้างสะพาน อย่างไรก็ตาม เส้นทางเบี่ยงนี้ยังไม่สะดวกเต็มที่ เนื่องจากบางจุดยังมีอุปกรณ์ก่อสร้างกีดขวางอยู่ จึง ไม่แนะนำให้รถขนาดใหญ่ใช้เส้นทางนี้
สำหรับการจราจรบน ถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเข้าเมือง คาดว่าจะหนาแน่นขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอม เนื่องจากมีรถจากเขตปริมณฑลเข้าสู่กรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก หลัง 08.30-09.00 น. ปริมาณรถบรรทุกขนาดใหญ่ก็จะเพิ่มขึ้นอีก ทำให้การจราจรอาจชะลอตัว
เจ้าหน้าที่จึงขอแนะนำให้ประชาชน เผื่อเวลาเดินทางอย่างน้อย 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางเข้าเมืองผ่านเส้นทางนี้ โดยการเปิดทางเบี่ยงนี้แม้จะไม่สามารถทำให้การจราจรคล่องตัวเหมือนปกติ แต่ก็ช่วยบรรเทาปัญหาได้ระดับหนึ่ง
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งศูนย์วอร์รูมที่ด่านดาวคะนอง เพื่อติดตามสถานการณ์การจราจรแบบเรียลไทม์ และจะมีการประชุมสรุปปัญหาและวิเคราะห์แนวทางแก้ไขเป็นรายวัน โดยจะพิจารณาปรับปรุงเส้นทางให้เหมาะสมเพื่อให้การเดินทางของประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
น.ส.คนิงนิจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี หนึ่งในประชาชนที่สับสนเส้นทางแล้วขับหลงเข้ามาซึ่งไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้ามาใช้ทางด่วน กล่าวว่า ปกติตนใช้เส้นทางถนนพระราม 2 มุ่งหน้าไปที่ทำงานย่านพุทธาบูชา เป็นประจำ
ซึ่งวันนี้ขับเข้ามาตรงจุดนี้ยอมรับว่า เกิดความสับสนในเส้นทางเล็กน้อย เห็นว่ามีการเปิดให้ใช้ทางเบี่ยง เลยคิดว่าจะสามารถใช้ทางดังกล่าวไปทำงานได้ โดยวันนี้ก็ได้เผื่อเวลาในการเดินทางไว้แล้ว ออกจากบ้านมาตั้งแต่เวลา 06.30 น. แต่คิดว่าในวันพรุ่งนี้จะต้องเผื่อเวลามากกว่าเดิม ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน