จ่าคิงส์ พาแม่ค้าล็อตเตอรี่ ถูกสองผัวเมียตาบอดหลอกขายโควต้าสลากฯ ทิพย์ สูญกว่า 2.4 ล้านบาท แจ้งความกองปราบฯ

วันที่ 10 เม.ย.68  ที่ หน้าแดนเนรมิตเก่า ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. พา น.ส.มณีรัตน์ ชูโรจน์ อายุ 36 ปี แม่ค้าล็อตเตอรี่ เข้าพบ พงส. กก.1 บก.ป.แจ้งความกรณีถูกสองสามีภรรยาตาบอด อ้างเป็นนายกสมาคมคนตาบอดชลบุรี ชักชวนให้ลงทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล มูลค่าความเสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท

จ่าคิงส์ พาแม่ค้าล็อตเตอรี่ ถูกสองผัวเมียตาบอดหลอกขายโควต้าสลากฯ ทิพย์ สูญกว่า 2.4 ล้านบาท แจ้งความกองปราบฯ

น.ส.มณีรัตน์  เปิดเผยว่า ตนเป็นแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลมา 10 ปีแล้ว โดยแต่ละงวดจะไปหาซื้อจากตลาดที่สนามบินน้ำ ใกล้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.นนทบุรี ซื้อมาราคาใบละ 79.50 บาท เอามาจำหน่ายต่อบวกกำไรใบละ 5-15 บาท พอมีกำไรเป็นทุนสะสมเลี้ยงชีพได้

จ่าคิงส์ พาแม่ค้าล็อตเตอรี่ ถูกสองผัวเมียตาบอดหลอกขายโควต้าสลากฯ ทิพย์ สูญกว่า 2.4 ล้านบาท แจ้งความกองปราบฯ

ต่อมาเดือน ก.ย.64 ได้รู้จัก นายมงคล (สงวนนามสกุล) พ่อค้าล็อตเตอรี่ ผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ“ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล” โดยนายมงคลใช้บัญชีชื่อ“ เสือ เสือ เสือใหญ่” อ้างว่าทำธุรกิจสลากกินแบ่ง จนมีสิทธิ์ซื้อจองสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนจะแนะนำให้รู้จักภรรยา ชื่อ น.ส.ทิพวรรณ หรือ กมลทิพย์ (สงวนนามสกุล)ซึ่งพิการสายตา อ้างว่าเป็นตัวแทนขายสลากกินแบ่งและเป็นนายกสมาคมคนตาบอด จังหวัดชลบุรี

ต่อมา ก.ย.65 น.ส.ทิพวรรณ อ้างว่าได้โควต้าสลากฯ มาเพิ่ม เป็นเวลา 1 ปี (24 งวด) ออกปากชักชวนตนให้ร่วมลงทุนในการขายปลีกสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย ในราคาเล่มละ 7,000 บาท ตนเห็นว่ากำไรดี จึงตกลงร่วมทุนด้วย

จ่าคิงส์ พาแม่ค้าล็อตเตอรี่ ถูกสองผัวเมียตาบอดหลอกขายโควต้าสลากฯ ทิพย์ สูญกว่า 2.4 ล้านบาท แจ้งความกองปราบฯ

-งวดแรก จำนวน 2 เล่ม โอนเงินให้ สองผัวเมียผ่านบัญชีธนาคารของ น.ส.ทิพวรรณ จำนวน 14,000 บาท ยังไม่ได้คืนต้นและกำไร อ้างว่าต้องเอาไปลงทุนต่อก่อน

-งวดสอง ต.ค.65 ซื้อเพิ่มเป็น 5 เล่ม โอนเงินไป 35,200 บาท ได้เงินคืนมา 40,000 บาท

-งวดที่สาม ต.ค.65 โอนเงินไป 77,200 บาท ได้เงินคืนมา 88,000 บาท

-งวดที่สี่ พ.ย.65 โอนเงินไป 150,600 บาท ได้คืนมา 120,000 บาท

-งวดที่ห้า เดือน ธ.ค.65 โอนไป 126,600 บาท ได้คืน 144,000 บาท

-งวดที่หก เดือน ธ.ค.65 โอน 126,600 บาท ได้คืน 144,000 บาท

-งวดที่เจ็ด เดือน ธ.ค.65 โอนไป 140,680 บาท ได้คืน 160,000 บาท

-งวดที่แปด ม.ค.66 โอนไป 140,680 บาท ได้คืน 160,000 บาท

เพิ่มเงินไปเรื่อยๆ จนงวดที่สิบหก เดือน พ.ค.66 โอนไป 2,112,000 บาท แต่ครั้งนี้ไม่ได้รับเงินคืนเมื่อทวงถามสองสามีภรรยาคู่นี้ก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมคืนเงินมาตลอด อ้างว่ามีปัญหา ไม่ได้รับสลากฯ ตามโควต้าที่ได้มาจากผู้ใหญ่ในกองสลากฯ ก่อนจะแนะนำให้ตนสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมคนตาบอด จ.ชลบุรี ก่อน จากนั้นจะสละตำแหน่งนายกสมาคมคนตาบอด จ.ชลบุรี ที่ภรรยาเป็นอยู่ให้ตนขึ้นเป็นแทน แถมยังเรียกเงินค่าเอกสารสมาคมอีก 20,000 บาท แต่เมื่อเอาเอกสารที่จดตั้งสมาคมฯ ดังกล่าวไปตรวจสอบที่จังหวัดชลบุรี พบว่าน่าจะเป็นเอกสารปลอม เพราะชื่อไม่ตรงกัน

การซื้อสลากฯ ทุกครั้งไม่ได้ใบสลากกินแบ่งเหมือนที่ตนไปซื้อจากตลาดสนามบินน้ำ จึงเชื่อว่าถูกสองสามีตาบอดหลอกลวง  เดือน พ.ค.67  จึงแจ้งความร้องทุกข์ พงส.สน.ท่าพระ ข้อหาฉ้อโกง พนักงานสอบสวนได้เรียกสองสามีภรรยา มาพบก่อนจะเปิดโอกาสให้เจรจากันก่อน ซึ่งทางสามีภรรยา รับปากว่าจะจ่ายเงินคืนให้ก่อนครึ่งหนึ่งของทั้งหมด ที่เหลือจะขอผ่อนจ่ายเดือนละ 7,000 บาท  แต่สุดท้ายก็เบี้ยวไม่ยอมจ่ายเลยรวมความเสียหายทั้งหมดเป็นเงินจำนวน 2,497,000 บาท

จ่าคิงส์ พาแม่ค้าล็อตเตอรี่ ถูกสองผัวเมียตาบอดหลอกขายโควต้าสลากฯ ทิพย์ สูญกว่า 2.4 ล้านบาท แจ้งความกองปราบฯ

น.ส.มณีรัตน์ กล่าวปนสะอื้นเช็ดน้ำตา ว่า ต้องสูญเสียเงินเก็บที่ทำมาหากินมาทั่งชีวิต ถูกสองสามีภรรยาร่วมกันฉ้อโกงไปจนหมดเนื้อหมดตัว นอกจากคดีที่แจ้งความ สน.ท่าพระไม่คืบหน้าแล้ว ยังมีคนแอบอ้างเรียกเงิน 40,000 บาท เพื่อเป็นค่าวิ่งเต้นทำคดีไปอีกก้อนหนึ่งด้วย

ไปรู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ก่อนจะปรึกษาจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ วันนี้จึงพามาปรึกษาตำรวจกองปราบปราม เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อมูลรวมทั้งเอกสารต่างๆ ที่ผู้เสียหานระบุว่าเป็นเอกสารราชการปลอม ก่อนจะประสาน สน.ท่าพระ ท้องที่เกิดเหตุเร่งนำตัวผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

Leave a Comment