วันที่ 4 มิ.ย. 68 ที่บริเวณถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พร้อมด้วย ทนายเจส นายณัฐปกรณ์ สุดชา ได้พา นางสาวสุภาพร ขัติยศ อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดพะเยา เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อกองบังคับการปราบปราม การค้ามนุษย์(บก.ปคม.) หลังจากถูกบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่งใน กทม. หลอกลวงว่าจะส่งไปทำงานที่ต่างประเทศ จนทำให้สูญเงินเก็บและเงินที่หยิบยืมมาจากครอบครัวไปกว่า 427,320 บาท
นางสาวสุภาพร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 เธอได้ติดต่อบริษัท จัดหางาน สล็อท อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อดำเนินการเรื่องการเดินทางไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย โดยตกลงค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ 80,000 บาท อย่างไรก็ตาม หลังจากเริ่มดำเนินการ กลับมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดเงินที่จ่ายไปพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ
หนูเริ่มสงสัยว่าน่าจะโดนหลอก เพราะค่าใช้จ่ายที่เสียไปมันเยอะมาก เป็นเงิน 427,320.64 บาท นางสาวสุภาพรกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เงินจำนวนนี้เป็นเงินเก็บของหนูส่วนหนึ่ง ส่วนที่เหลือต้องยืมมาจากแม่ ยาย และพี่สาว มันเป็นเงินก้อนใหญ่มาก ทำให้หนูอยู่ไม่ได้ นอนไม่หลับ และเกือบจะฆ่าตัวตายไปแล้วครั้งหนึ่ง
ด้วยความสิ้นหวัง นางสาวสุภาพร แจ้งความ สภ. เชียงคำ ภ.จว.พะเยา เมื่อ 18 พ.ค. แต่ยังไม่มีความคืบหน้า พนักงานสวนบอกให้รอไปก่อนตามคิว ตนจึงตัดสินใจเข้ามาขอความช่วยเหลือจากจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบบริษัทจัดหางานดังกล่าว และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ด้านทนายเจส กล่าวว่า ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้เสียหาย ได้มีการโอนเงินต่อเนื่องให้กับมิจฉาชีพระหว่างเดือนเมษาถึงพฤษภาเป็นจำนวนหกครั้ง เปลี่ยนชื่อบัญชีบุคคลต่างๆรวมทั้งบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคลที่สามารถนำมาให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นบัญชีม้าเหมือนบัญชีอื่นหรือไม่ กรณีนี้เชื่อว่าน่าจะเป็น มิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ กล่าวว่า จะประสานงานกับกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการหลอกลวงแรงงาน เพื่อเร่งดำเนินการสอบสวนในกรณีนี้อย่างละเอียด เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และช่วยเหลือผู้เสียหายให้ได้รับความเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด
พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการเลือกใช้บริการบริษัทจัดหางาน และตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงเช่นกรณีนี้
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน
