เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 27 มีนาคม 68 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากนายนิพนธ์ นันทะศรี หรือแจ๊ค อายุ 34 ปี พ่อค้าขายหมูและเป็นคนโพสต์คลิปเหตุการณ์รุมทำร้าย
นายนิพนธ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสนิท (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 43 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่คนละฝั่งคลอง ได้ออกมาตะโกนด่าทอด้วยคำหยาบคายและท้าทาย ด้วยความโมโหจึงตะโกนด่ากลับไป จากนั้นคืนวันที่ 22 มีนาคม เวลา 22.00 น.นายสนิทได้บุกเข้ามาที่บ้านและได้ตะโกนด่าแม่ของตน อีกทั้งยังใช้ขวดทุบรถยนต์ที่จอดอยู่ในบ้านได้รับความเสียหายอีกด้วย ตอนนั้นตนอยู่บนบ้านได้ยินเสียงแฟนตะโกนเรียก จึงเดินลงมาดู พบนายสนิทกำลังยืนด่าทอและท้าทาย ตนสังเกตเห็นในมือเขามีสนับมือ จึงเดินเข้าไปหาพร้อมยกมือขึ้นและพูดว่าในมือของตนไม่มีอาวุธอะไร จังหวะที่ตนเดินเข้าไปใกล้ นายสนิทพยายามมาคว้ามือของตน ตนจึงต่อยสวนไป แล้วก็จับเขาทุ่มลงกับพื้น แล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง มาที่เกิดเหตุและควบคุมตัวนายสนิทไปที่โรงพัก ต่อมาตนได้ตามไปที่โรงพัก ทางตำรวจบอกว่าไม่สามารถดำเนินคดีได้ ทำได้แค่ปรับข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งตนไม่เข้าใจทั้งที่ตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง ทำไมไม่ดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายสนิทก็เคยถูกจับข้อหาเสพยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ตอนนี้ก็ยังตามหาตัวนายสนิทไม่เจอ ตอนนี้เป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัว อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามตัวนายสนิทไปรักษาหรือบำบัด อย่าปล่อยให้เขามาก่อเหตุภายในชุมชนแบบนี้อีก หรือจะต้องรอให้เกิดการสูญเสียก่อนแล้วถึงจะทำ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามนางสิชาดี วัฒนสุวรรณ อายุ 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่3 โดยให้ข้อมูลว่า นายสนิท เคยถูกจับเรื่องยาเสพติดและเคยถูกนำตัวไปบำบัดมาแล้วหลายครั้ง หลังจากออกมาก็กลับมาเสพอีก เวลาที่เขาไม่ได้เสพก็จะเกิดอาการคุ้มคลั่งด่าทอไปทั่ว แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร หลังเกิดเหตุตนก็พยายามติดตามตัวแต่ก็ไม่พบ ทราบข่าวว่าเขาไปบำบัดอยู่แถวจังหวัดปทุมธานี แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้
ขณะเดียวกันนายสุพัฒน์ อารยะรุ่งโรจน์ กำนันตำบลบางใหญ่ เดินทางมาบ้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า นายสนิทเคยถูกจับเรื่องยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่เกิดเรื่องตนก็พยายามตามหาตัว มาที่บ้านเขาหลายครั้ง แต่ก็ไม่พบตัว สอบถามทางบ้านของนายสนิทก็ไม่มีใครติดต่อได้ ถ้าหากพบตัวก็จะนำมาพูดไกล่เกลี่ยกันไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้นในชุมชน
จากนั้นนายสุพัฒน์ ได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายสนิท พบว่าที่บ้านมีพ่อป่วยติดเตียง ส่วนแม่ก็แขนขาไม่มีแรงเดินไม่ได้ จากการสอบถามพี่ชายของนายสนิท ก็ยืนยันว่าไม่ได้รับการติดต่อจากน้องชายเลย
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นนทบุรี รายงาน
