ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้น ร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนปฏิบัติการพิเศษ/เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร)
สถานที่ตรวจยึด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติท้องที่บ้านโชคดี (หรือบ้านเขาขาด) ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี เนื้อที่ 65-1-48 ไร่พร้อมทั้งตรวจยึดไม้ท่อนหวงห้าม จำนวน 5 ท่อน และไม้หวงห้ามแปรรูป จำนวน 1 แผ่น รวมปริมาตร 39.42 ลบ.ม. พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตกพรม ม.4 บ้านโชคดี ต.ตกพรม อ.ขลุง จ.จันทบุรี เนื้อที่ 110-1-40 ไร่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าตกพรม ม.4 บ้านโชคดี ต.ตกพรม อ.ขลุง จ.จันทบุรี เนื้อที่ 919-2-80 ไร่
ของกลาง
1. รถแบ็กโฮ จำนวน 1คัน
2. รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ จำนวน 1 คัน
3. รถยนต์แทรกเตอร์ จำนวน 1 คัน
4. เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 2 เครื่อง
ร่วมกันจับกุม
1. นายวิทวัสฯ อายุ 30 สัญชาติ ไทย
2. นายประทีปฯ อายุ 63 ปี สัญชาติ ไทย
3. นายวันนะฯ อายุ 23 ปี สัญชาติกัมพูชา
4. นายมิดฯ อายุ 31 ปี สัญชาติกัมพูชา
5. นายซีฯ อายุ 50 ปี สัญชาติกัมพูชา
6. นายเจิ้ดฯ อายุ 22 ปี สัญชาติกัมพูชา
7. นางซาราฯ อายุ 37 ปี สัญชาติกัมพูชา
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน
ข้อหาที่ 1 เป็นบุคคลต่างเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อหาที่ 2 เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
ข้อหาที่ 3 ร่วมกันเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ม.14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507
ข้อหาที่ 4 ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น ตามมาตรา 54,55 พ.ร.บ.ป่าไม้พ.ศ.2484
ข้อหาที่ 5 มีไว้ซึ่งเลื่อยยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ.2545
ผู้ต้องหาที่ 1และ2 ผิดข้อหาที่ 3 ถึง 5
ผู้ต้องหาที่ 3 ถึง 7 ผิดข้อหาที่ 1 ถึง 5
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ตรวจยึดดำเนินคดีพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก แผ้วถาง ยึดถือครอบครอง ระหว่างช่วงธันวาคม2567 เป็นต้นมา จำนวนหลายคดี เฉพาะในจังหวัดจันทบุรี เนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ผ่านการร้องเรียนและรับแจ้งเบาะแสจากหลายช่องทาง ปัจจุบันพบว่า ยังมีการบุกรุกเข้าทำประโยชน์พื้นพื้นที่ป่าไม้ ท้องที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราดอีกหลายแห่งโดยเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ เพื่อทำสวนทุเรียนโดยกลุ่มทุนไทยและกลุ่มทุนต่างชาติ จึงได้กำหนดให้มียุทธการ “ยุทธการพิทักษ์ผืนป่าตะวันออก” ท้องที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราดขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่ได้กำหนดแผนการปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก แผ้วถาง ยึดถือครอบครอง โดยได้จับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางได้ดังรายการข้างต้น จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตกพรม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน