เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 17 มิ.ย. 2568 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกันจนมีผู้เสียชีวิต บริเวณปากทางเข้าวัดเกษตรพันธาราม หมู่ที่ 2 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจัดกำลังเจ้าหน้าที่ แพทย์เวรโรงพยาบาลกระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร
ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย นอนจมกองเลือดอยู่ในซอยทางเข้าวัดเกษตรพันธาราม ห่างจากถนนสายหลักเข้าไปประมาณ 100 เมตร สภาพศพ สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนขาสั้น ไม่สวมรองเท้า ทราบชื่อต่อมาคือ นายณรงค์ศักดิ์ อายุ 39 ปี ชาว ต.จะกง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ เบื้องต้นจากการชันสูตรพลิกศพ พบมีบาดแผลถูกแทงที่บริเวณหน้าอกเหนือราวนมทั้ง 2 ข้าง และ ที่บริเวณไหปลาร้าด้านซ้าย รวมหลายแผล
นอกจากนี้ ยังพบรถบรรทุก 6 ล้อ ติดคอกหลัง ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน นครปฐม ซึ่งเป็นคันที่ผู้เสียชีวิตขับ จอดอยู่ไม่ห่างจากศพมากนัก และบนถนนมีรอยเลือดกระเซ็นไปทั่วพื้นหลายแห่ง อีกทั้งยังมีรองเท้าแบบสวม 1 คู่ ตกอยู่บริเวณปากซอยทางเข้าวัด ซึ่งภรรยาผู้เสียชีวิตที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ระบุว่า เป็นของคนร้ายที่ก่อเหตุใช้มีดแทงสามีจนเสียชีวิตถอดทิ้งไว้ ก่อนที่จะขึ้นรถสิบล้อขับหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์หาตัวตนผู้ก่อเหตุ
จากการสอบถามนางบัว (ขอสงวนชื่อจริงและนามสกุล) ภรรยาของผู้เสียชีวิต ที่นั่งมาด้วยในรถบรรทุก 6 ล้อ เล่าว่า สามีขับรถมาจากแถวบางบัวทอง โดยมีตนนั่งมาด้วยในรถ เพื่อจะมารับสินค้าเป็นพลาสติกจากโรงงานที่อยู่ในซอยเกิดเหตุ แต่ในช่วงที่ขับรถมาถึงบริเวณถนนบางบอน 5 นั้น ก็ขับคู่มากับรถบรรทุก 10 ล้อ ตู้ทึบคันหนึ่ง โดยรถ 10 ล้อ ขับเยื้องอยู่ข้างหน้าเล็กน้อยในช่องจราจรตรงกลางถนน ส่วนสามีขับอยู่ช่องซ้ายสุด กระทั่งถึงทางที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยตัดมาทางกระทุ่มแบน รถบรรทุก 10 ล้อ ก็เปิดไฟเลี้ยวซ้ายเหมือนกัน สามีจึงชะลอให้รถ 10 ล้อเลี้ยวเข้าไปก่อน แล้วจึงเลี้ยวตาม จากนั้นก็ขับตามกันมาสักระยะหนึ่ง สามีก็ขับแซงขึ้นไปแล้วตัดเข้าไปอยู่ข้างหน้ารถบรรทุก 10 ล้อ ทำให้รถบรรทุก 10 ล้อบีบแตรใส่ แล้วก็ขับไล่ตามกันมาเรื่อยๆ จนถึงปากซอยที่เกิดเหตุ
พอช่วงจังหวะที่สามีกำลังหักหัวรถเลี้ยวเข้าซอยนั้น รถบรรทุก 10 ล้อตู้ทึบ คันคู่กรณีก็ขับมาจอดข้างหลัง พร้อมกับบีบแตรใส่อีก ทางสามีจึงจอดรถเดินลงไปหา ส่วนคนขับรถบรรทุก 10 ล้อ ก็ลงจากรถเดินปรี่เข้ามาหาสามีเช่นกัน แต่ในมือคนขับรถบรรทุก 10 ล้อ ถือมีดคล้ายกับมีดหั่นผลไม้มาด้วย 1 เล่ม ยาวประมาณครึ่งไม้บรรทัด ซึ่งจังหวะที่สามีเห็นว่าคู่อริมีอาวุธ จึงหันไปหาไม้ข้างทางทำให้คนขับรถบรรทุก 10 ล้อ ที่รูปร่างใหญ่กว่าสามีของตน เดินปรี่เข้าไปล๊อคคอจากทางด้านหลัง แล้วจ้วงแทงใส่สามีไม่ยั้ง จากนั้นก็ขึ้นรถขับหลบหนีไป ตนที่ลงไปดูจะห้ามสามีแต่ไม่ทัน ได้แต่ยืนมองช่วยอะไรไม่ได้ เพราะคนขับรถบรรทุก 10 ล้อ ตัวใหญ่และมีอาวุธอยู่ในมือ โดยหลังคนก่อเหตุหลบหนีไปแล้ว สามีก็พยายามเดินเข้ามาที่รถแต่ก็ล้มฟุบสิ้นใจเสียก่อน
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้บริเวณสี่แยกไฟแดงไปตรวจสอบหาทะเบียนรถบรรทุก 10 ล้อและเส้นทางการหลบหนี โดยจากภาพจะเห็นว่า มีรถบรรทุก 2 คันขับตามกันมาติดๆ ซึ่งคันหน้าเป็นของผู้เสียชีวิต ส่วนอีกคันที่ขับตามหลังมาคือรถของคนก่อเหตุ พร้อมกันนี้ ก็จะตรวจหาภาพจากกล้องวงจรปิดตัวอื่นๆ บนท้องถนนด้วย เพื่อติดตามตัวคนขับรถบรรทุก 10 ล้อตู้ทึบ ที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ จนเสียชีวิต มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนศพผู้เสียชีวิตนำส่งให้แพทย์นิติเวชฯ ทำการชันสูตรอีกครั้ง ก่อนให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณี
ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร รายงาน