นอกจากอุตสาหกรรมเพลงไทยที่รุ่งเรืองมากขึ้นจากกระแสของ T-Pop ไม่ว่าจะเป็นเพลงฮิตท่าข้าวปั้นจากสาว ๆ BNK48 และเพลงประกอบซีรีส์แฟนตาซีจากหนุ่ม ๆ 9by9 ที่ทำให้ T-Pop ในตอนนี้กลับมาได้รับความนิยม
แต่เมื่อมองไปยังเพลงลูกทุ่งจะเห็นได้เลยว่า เป็นแนวเพลงที่ได้รับความนิยมจากคนไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีต ทำให้ในวงการเพลงลูกทุ่งจะมีเพลงฮิตหลายร้อยล้านยอดวิว และศิลปินดังระดับประเทศอย่างต่าย อรทัย, ไมค์ ภิรมย์พร, ไผ่ พงศธร, แอน อรดี, มนต์แคน แก่นคูน, ดอกอ้อ ทุ่งทอง, ก้านตอง ทุ่งเงิน ก็จะมีค่ายเพลงหรือบริษัทที่ผลิตศิลปินลูกทุ่งผุดขึ้นมามากขึ้นอีกด้วย
เช่นเดียวกับ ไหทองคำ ค่ายเพลงลูกทุ่งชื่อดังของไทยที่ประกอบไปด้วยนักร้องดังระดับประเทศอย่าง ลำไย ไหทองคำ, โชค ชะชะช่า, ยูกิ ไหทองคำ และอายมนิสา เป็นต้น โดยดำเนินงานภายใต้บริษัท ไหทองคำ เรคคอร์ด จำกัด ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 5,000,000 บาท ประกอบกิจการให้บริการ แสดง จัดหานักแสดง นายแบบ ทุกประเภท แตกไลน์ธุรกิจ 3 บริษัท
จากการตรวจสอบผ่าน Creden Data พบว่า บริษัท ไหทองคำ เรคคอร์ด จำกัด มีผลประกอบการตั้งแต่ปี 2562-2566 มีรายได้รวมและกำไรสุทธิ ดังนี้
ปี 2562 รายได้รวม 10,970,051 บาท กำไร 1,202,400 บาท
ปี 2563 รายได้รวม 12,409,683 บาท กำไร 1,244,790 บาท
ปี 2564 รายได้รวม 9,170,036 บาท กำไร 1,273,081 บาท
ปี 2565 รายได้รวม 16,684,789 บาท กำไร 2,156,444 บาท
ปี 2566 รายได้รวม 18,817,893 บาท กำไร 2,312,273 บาท
นอกจากนั้นยังมีอีก 2 บริษัทที่อยู่ภายใต้ชื่อ ไหทองคำ และมีกรรมการบริหารคนเดียวกันได้แก่
บริษัท ไหทองคำ ฟูดส์ จำกัด ประกอบกิจการผลิตน้ำปลาร้า เครืองปรุงอาหาร เครื่องดื่มบริโภคทุกชนิด ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 2,000,000 บาท จดทะเบียนเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมีศิลปินในค่ายช่วยถ่ายรูปโปรโมตผ่านเฟซบุ๊ก ไหทองคำ ฟูดส์ โดยมีน้ำปลาร้าเป็นสินค้าหลัก
และบริษัท ไหทองคำ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ประกอบธุรกิจการขายส่งเครื่องสำอาง มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 5,000,000 บาท โดยมีผลประกอบย้อนหลังตั้งแต่ปี 2563-2566 ดังนี้
ปี 2563 รายได้รวม 209,973 บาท กำไร -16,670 บาท
ปี 2564 รายได้รวม 368,083 บาท กำไร 149,333 บาท
ปี 2565 รายได้รวม 4,458,834 บาท กำไร 224,363 บาท
ปี 2566 รายได้รวม 18,355,979 บาท กำไร 332,458 บาท