เรียกได้ว่ากำลังเป็นเรื่องราวที่หลายๆคนต่างให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก โดยอ.ปานเทพ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้โทรศัพท์ที่บังแจ็คส่งมาให้ ซึ่งทุกคนทราบดีว่าเป็นเครื่องโคลนนิ่งของมือถือเครื่องจริง แต่มีประโยชน์เพราะเราสามารถเข้าถึงไอคลาวด์ (iCloud) ข้อมูลของแตงโมนิดาได้ และล่าสุดมีการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับข้อความเอสเอ็มเอส SMS ของ KBank เช็คดูก็เกิดคำถามทันทีว่า ทำไมถึงมีจำนวนเงินออกไปจากบัญชีหลังจากวันที่ 24 ก.พ.65 ซึ่งเวลานั้นเชื่อว่าดาราสาวพลัดตกเรือไปแล้ว
ในรายการยังไล่เรียง SMS ที่มีการแจ้งเตือนธุรกรรมทางการเงินแบบละเอียดยิบ โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.65 มีการชำระบัตรหรือแอพฯ อะไรสักอย่าง 338 บาท ซึ่งเป็นไปได้ว่าเป็นการตัดบัญชีอัตโนมัติ เนื่องจากเป็นเมมเบอร์หรืออะไรสักอย่าง ต่อมาในวันที่ 25 ก.พ. ก็มีความเคลื่อนไหว โดยมีการชำระเงินอีก 397 บาท เป็นการชำระบัตรคล้ายๆ กับวันที่ 24 ก.พ. เข้าใจว่าอาจจะสมัครบริการอะไรไว้ แล้วระบบหักเงินอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมีการชำระเน็ตฟลิกซ์ 419 บาท ก็น่าจะเป็นสมาชิกรายเดือน ซึ่งอ.ปานเทพเช็กแล้วยืนยันจุดนี้ไม่น่ามีอะไรผิดปกติ
อย่างไรก็ดีผลจากการตรวจสอบข้อความการแจ้งเตือนจำนวนเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารในมือถือของแตงโม นิดา ก็มาพบจุดที่น่าสงสัยเข้าอย่างหนัก หลังพบว่าเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่เจอศพของนักแสดงสาวปรากฏว่า มีการโอนเงินเข้ามาเป็นเศษเงิน 1 บาท
ตัวของอ.ปานเทพเองถึงกับขยี้จุดนี้เลยว่า อันนี้น่าสนใจ เพราะไม่ใช่การทำธุรกรรมแบบนี้แค่ครั้งเดียว แต่มีการโอนเศษเงินเข้ามาเรื่อย ๆ หลังจากนั้นอีกทั้งจำนวนเงิน 9 บาทบ้าง 14 สตางค์ 50 สตางค์ ไปจน 2 บ.ไปเรื่อยๆ โดยเป็นการโอนมาจากบัญชีเดียวกันทั้งหมด! จึงอยากถามว่านี่คืออะไร?
จากนั้นผู้ดำเนินรายการจึงตั้งข้อสังเกตทำไมถึงมีการโอนเงินในลักษณะนี้เข้ามาจำนวนทั้งสิ้น 27 ครั้ง! จนกระทั่งวันที่ 12 พ.ค. มีการขอยกเลิกบริการ SMS ทั้งหมด
สันนิษฐานมุมนักวิเคราะห์ โปรแกรมเมอร์อดีตดูความปลอดภัยสถาบันการเงิน
ข้อสงสัยในส่วนนี้ เอกราช นามโภคิณ นักวิเคราะห์ชี้แจงต่อมาในรายการระบุว่า เคสนี้เป็นไปได้หลายอย่างยังฟันธงไม่ได้ แต่จากประสบการณ์ทำงานในฐานะโปรแกรมเมอร์และในฐานะที่ทำงานธนาคารวิเคราะห์ว่า ต้องเป็นการทดสอบระบบกับเครื่องนี้ หรือเพื่อนำเครื่องนี้ไปทำอะไรสักอย่างหนึ่ง
หรืออีกอย่างที่เป็นไปได้ นักวิเคราะห์มองว่าอาจเป็นการโอนเงิน เศษสตางค์แบบนี้อาจเป็นโค้ดลับอะไรบางอย่าง? เพื่อเป็นการสื่อสารกันเฉพาะกลุ่ม
เอกราช นามโภคิณ ย้อนเล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เป็นวิธีที่อาชญากรทำกัน
อัปเดตล่าสุดจากเฟซบุ๊กของอ.ปานเทพ ได้โพสต์ภาพ SMS ต่อมาในมือถือของแตงโมพร้อมกับฝากการบ้านสัปดาห์นี้ ถึงปริศนาโอนเศษเงินเข้า 27 ครั้ง โดยระบุ “เงินตัดบัญชีรายเดือนอัตโนมัติของแตงโมใน KBank น่าจะเป็นเรื่องปกติ แต่เงินโอนเศษเงิน เข้าบัญชีแตงโม 27 ครั้ง หลังการหายไปของแตงโม เหมือนเป็นการทดสอบระบบอะไรซักอย่างหรือไม่ ขอเชิญระดมสมองผู้รู้จากทุกท่าน มาช่วยกันวิเคราะห์หาคำตอบท้ายโพสต์นี้ด้วยกันครับ”
ต่อมามีความเห็นเข้ามาแนะนำพร้อมกับช่วยกันจับพรุธเพิ่ม โดยอ้างว่าเคยอยู่งานเกี่ยวกับการตรวจสอบการทุจริตบัตรเครดิต พวกปั๊ม “บัตรปลอม” ก่อนใช้ก็จะทดสอบบัตรว่าใช้ได้หรือไม่ แต่ไม่หลายครั้งมากแบบเคสของปานเทพพูดถึงเศษเงินที่โอน
เคยได้รับ SMS มีเงินโอนเข้า 1 บาท 2 ครั้งต่อเนื่องกัน ก่อนที่จะได้รับข้อความว่ามีการใช้บัตรเครดิต 900 กว่าบาทซื้อของบน Apple แพลตฟอร์ม เลยแจ้งธนาคารว่ามีรายการผิดปกติ ทางธนาคารตรวจสอบและทำการยกเลิกบัตรทันทีค่ะ
ขณะที่บางรายสังเหตเหมือนโอนจากเลข บช.เดียว อันนี้ถ้าไปขอข้อมูลทางธนาคารน่าจะสืบหาเจ้าของบัญชีได้ไม่ยาก
เหมือนเคยเห็นเม้นท์เมื่อ3ปีที่แล้วว่า1คนบนเรือเป็นเจ้าของบริษัทเกี่ยวกับไอทีมั้ย ถ้าจำไม่ผิด
ขณะที่ หมอธวัชชัย กาญจนรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานรื้อคดีแตงโมรอบล่าสุด เข้ามาพิมพ์ความเห็นด้วยว่า “คุณชัยวัฒน์ตอนเป็นที่ปรึกษากฎหมายคุณแม่ เคยขอเอกสารจาก Kbank ไปแจ้งความที่กองปราบครับ มียอดค่าใช้จ่าย 3 ครั้ง ภายหลังการเสียชีวิตด้วย และเงินทุกบัญชีรวมกันมียอดเหลือแค่หมื่นกว่าบาท ซึ่งคุณเพื่อนรักได้นำเงินที่เหลือให้แก่เพื่อนคุณแม๊”