เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 14.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนกระทรวงแรงงานรับร่างแรงงานไทยที่เป็นตัวประกันรายสุดท้ายที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล 1 ราย พร้อมร่วมวางพวงหรีดแสดงความอาลัย
โดยมี น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ นางเดวอรา ดอร์สแมน ยาร์โคนี รองหัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูต อิสราเอล และผู้บริหารของกระทรวงแรงงาน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ เขต 1 พรรคเพื่อไทย ปธ.กมธ.การสาธารณสุขสภาผู้แทนราษฏร ร่วมพิธี ณ บริเวณอาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ
นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในวันนี้ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ผมพร้อมด้วย ท่านรองปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงจากทุกหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนของกระทรวงแรงงานในการมารับร่างแรงงานไทย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตได้ส่งกลับมา โดยถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 14.00 น. พร้อมร่วมวางพวงหรีดของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่อแสดงความอาลัย
นายอารี กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน หรือ 5 เสือแรงงานในพื้นที่จังหวัดแพร่ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของแรงงานที่เสียชีวิต ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว เพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์แก่ครอบครัวทราบ พร้อมอำนวยความสะดวกในการประสานเกี่ยวกับขั้นตอนและเอกสารต่างๆ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์โดยเร็วที่สุดต่อไป ขณะเดียวกันในวันนี้ ทันทีที่ร่างของแรงงานไทยกลับถึงภูมิลำเนา 5 เสือแรงงานในพื้นที่จังหวัดแพร่ ก็จะรอรับร่างและอำนวยความสะดวกพร้อมนำพวงหรีดของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ และท่านบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ไปวางหน้าหีบศพเพื่อแสดงความอาลัย และเป็นผู้แทนกระทรวงแรงงานร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพด้วย
ในส่วนของการช่วยเหลือเยียวยากรณีของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยชาวจังหวัดแพร่ ที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล เมื่อเดือนตุลาคม 2566 นั้น จากการตรวจสอบสิทธิประโยชน์ที่ทายาทจะได้รับ มีดังนี้
1) สถาบันประกันภัยอิสราเอล ปัจจุบันทายาทยื่นขอรับเงินสิทธิประโยชน์ (กรณีตัวประกัน) และได้รับเงินชดเชยเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้รับยืนยันการเสียชีวิตทางสถาบันประกันภัยอิสราเอลฯ จะเปลี่ยนเป็นสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตแทน และทายาทจะได้รับเงินชดเชย ได้แก่ ค่าทำศพ ประมาณ 79,000 บาท / ค่าใช้จ่ายในการฝังศพ เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 47,000 บาท (1,300 USD) /เงินช่วยเหลือการเป็นหม้าย (หากมีภรรยา) ประมาณ 57,000 บาท /เงินชดเชยรายเดือนและรายปีอื่น ๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถาบันประกันภัยอิสราเอล
2) กองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรมการจัดหางาน กรณีเสียชีวิต ครอบครัวหรือทายาทได้รับเงินสงเคราะห์เหมาจ่าย 40,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพในต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร/หลักฐาน
3) สิทธิจากกองทุนประกันสังคม ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้ประกันตนมาก่อน มีสิทธิได้รับเงินชราภาพ 64,202.18 บาท ไม่รวมดอกผล
4) เงินค่าจ้างค้างจ่าย / เงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง (ปิซูอิม) ซึ่งในส่วนนี้ฝ่ายแรงงานฯ ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ อยู่ระหว่างการติดตาม
ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อญาติพี่น้องและครอบครัวของพี่น้องแรงงานไทยที่สูญเสีย กระทรวงแรงงาน โดยท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการการกระทรวงแรงงาน ขอให้ ความมั่นใจว่าจะดูแลสิทธิประโยชน์ของแรงงานที่เสียชีวิตให้ได้รับสิทธิประโยชน์พึงได้ตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด สำหรับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ขอให้แจ้งข้อมูลที่ด่านตรวจคนหางานก่อนเดินทางออก นอกประเทศทุกครั้ง เพื่อกระทรวงแรงงานจะได้ทราบข้อมูล ติดตาม และดูแลสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ ทั้งยังเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เช่นนี้อีก หรือโทรได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เหตุการณ์ครั้งนี้ พบว่า มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 42 รายนำร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทยแล้ว 39 ราย รวมวันนี้ด้วยอีก 1 รายเป็น 40 รายผู้บาดเจ็บ 22 ราย เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว 19 ราย อีก 3 รายออกจากโรงพยาบาลแล้ว และทำงานอยู่ต่อในอิสราเอล มีแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ทั้งหมด 31 ราย ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว 28 ราย
ซึ่งตัวประกันอีก 2 ราย ทางการอิสราเอลได้ประกาศยืนยันการเสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่พบร่าง กรณีของนายณัฐพงษ์ ปินตา แรงงานไทยชาวจังหวัดแพร่ที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลนั้น เป็น 1 ใน แรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และทางการอิสราเอลพบร่างและทางสถานทูตฯ ส่งกลับมายังประเทศไทยในวันนี้
สำหรับสถานการณ์ด้านแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลขณะนี้ ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลประมาณ 40,000 คน แยกเป็น แรงงานถูกกฎหมายประมาณ 34,000 คน ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในภาคเกษตร 30,000 คน ภาคก่อสร้าง 2,000 คน ภาคอุตสาหกรรม 500 คน พ่อครัว แม่ครัว 300 คน ขณะนี้ กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้มีการจัดส่งแรงงานไปทำงานที่อิสราเอลอย่างต่อเนื่องเดือนละประมาณ 1,200 คน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดแพร่ รายงาน