ยังเป็นที่จับตาของสังคม สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันกลางคลองถม เมื่อ ทูน หิรัญทรัพย์ นักแสดงอาวุโสวัย 69 ปี ถูก 2 วัยรุ่นชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นข้างที่เขาตาบอด โดยต่างฝ่ายต่างมีคำให้การขัดแย้งกัน ล่าสุด
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์
ได้ออกมาวิเคราะห์คดีนี้ในมุมกฎหมาย พฤติกรรม และจิตวิทยา พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งสองฝ่ายอาจไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด
คดี ทูน หิรัญทรัพย์ ถูกชกกลางคลองถม
ใครโกหก? ใครพูดไม่หมด? หรือทั้งสองฝ่าย…มีจุดที่ไม่พูดความจริง?
สิ่งที่เรารู้แน่ ๆ (จากคำให้การทั้ง 2 ฝ่าย)
ฝ่าย ทูน หิรัญทรัพย์ (ผู้เสียหาย – อายุ 69 ปี)
ถูกวัยรุ่นพูดจาไม่ให้เกียรติว่า ไม่รู้จักเป็นใคร
ทูนจึงตักเตือนในฐานะผู้ใหญ่
จากนั้นถูกชกเข้าที่ “เบ้าตาขวา” ซึ่งเป็นข้างที่ตาบอด
มีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ
ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะถือว่า “การไม่ให้เกียรติ” ไม่ใช่เรื่องเล็ก
ฝ่าย นายเอ็ม (ผู้ก่อเหตุ – อายุ 17 ปี)
บอกว่าถูกถามว่ารู้จักดาราไหม แล้วตอบว่า ไม่รู้จัก
ทูนได้ยินแล้วต่อว่า พร้อมพูดว่า ระวังอายุสั้น
อ้างว่าทูนเดินมาดึงแขน 2 ครั้งจนล้ม
จากนั้นจึงโมโห ชกหน้าทูน 3 ที
ยืนยันว่าไม่ได้รุม แค่ ตอบโต้เพราะถูกกระทำก่อน
วิเคราะห์ตามหลักพฤติกรรม
ทั้งสองฝ่าย น่าเชื่อถือบางส่วน และ น่าสงสัยบางจุด
ฝ่ายทูน – พูดคล้ายคนที่ช็อกกับการถูกกระทำ แต่
พูดถึงการถูกชกโดยไม่เห็นหมัด (เพราะตาขวาบอด) = มีเหตุผลที่ไม่ป้องกันตัวได้
แต่ไม่กล่าวถึง การดึงแขนวัยรุ่น ซึ่งอีกฝ่ายพูดตรงกัน – จุดนี้ อาจเป็นสิ่งที่ทูน ไม่พูด เพื่อคงภาพผู้เสียหายไว้ ฝ่ายวัยรุ่น – เน้นว่า ถูกดึงก่อนจึงตอบโต้ แต่
บอกว่าถูกดึง 2 ครั้ง จนล้ม แต่ลุกขึ้นมาชกถึง 3 หมัด แถมเป็นผู้เยาว์กับผู้สูงอายุ – ขาดความพอดีในการป้องกันตัว
ไม่มีภาพหรือพยานสนับสนุนว่าถูกทำร้ายก่อน
อ้างว่ามี แฟนทูน เข้ามารุม แต่ฝ่ายทูนไม่ได้พูดถึงเลย
แปลว่า มีคนหนึ่ง พูดไม่หมด และอีกคนหนึ่ง อาจพูดเกินจริง ทนายดัง จับพิรุธคดี ทูน หิรัญทรัพย์ ถูกโจ๋ทำร้าย ใครโกหก พูดไม่หมด
วิเคราะห์ตามหลักกฎหมาย
กรณี วัยรุ่นชกผู้สูงอายุ
แม้จะอ้างว่าถูกกระทำก่อน แต่การ ชก 3 หมัดเข้าหน้าคนตาบอด เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ
การป้องกันตัวตาม ป.อาญา มาตรา 68 ต้อง ได้สัดส่วน – พอสมควร – ไม่ใช่การลงโทษ หาก ทูน ดึงแขนก่อนจริง
การกระทำของทูนจะเข้าข่ายละเมิดเล็กน้อย (ดึงแขนโดยไม่มีอันตราย) วัยรุ่นควรปัดป้องหรือถอย ไม่ใช่ตอบโต้ด้วยกำลังรุนแรง
วิเคราะห์ตามจิตวิทยาเหตุการณ์
คนมีอายุอย่างทูน มักใช้ อำนาจเชิงสังคม (Social Authority) เช่น การตักเตือนโดยตรง
วัยรุ่นบางคนที่ไม่ยอมให้ผู้ใหญ่สั่งสอน อาจตีความว่าเป็นการดูถูกหรือคุกคาม
การโต้กลับด้วยกำลังจึงเป็น ปฏิกิริยาทางอัตตา ไม่ใช่การป้องกันตัวแท้จริง
สรุปในฐานะ ทนายรณณรงค์ มีโอกาสสูงว่า ทั้งสองฝ่ายต่างพูดไม่หมด
ฝ่ายทูน อาจไม่ได้เล่าว่าตนเข้าไปดึงแขนก่อน
ฝ่ายวัยรุ่น อาจพูดลดน้ำหนักความรุนแรงของตัวเอง เพื่อให้ดูเป็นฝ่ายถูกกระทำ
แต่ในทางกฎหมาย – การชกหน้าผู้สูงอายุที่ตาบอด แถมยังมีท่าทีฮึดฮัดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะกลายเป็น ฝ่ายเสียเปรียบ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฝ่าย ทูน หิรัญทรัพย์ (ผู้เสียหาย – อายุ 69 ปี)
ถูกวัยรุ่นพูดจาไม่ให้เกียรติว่า ไม่รู้จักเป็นใคร
ทูนจึงตักเตือนในฐานะผู้ใหญ่
จากนั้นถูกชกเข้าที่ “เบ้าตาขวา” ซึ่งเป็นข้างที่ตาบอด
มีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ
ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะถือว่า การไม่ให้เกียรติ ไม่ใช่เรื่องเล็ก
ฝ่าย นายเอ็ม (ผู้ก่อเหตุ – อายุ 17 ปี)
บอกว่าถูกถามว่ารู้จักดาราไหม แล้วตอบว่า ไม่รู้จัก
ทูนได้ยินแล้วต่อว่า พร้อมพูดว่า ระวังอายุสั้น
อ้างว่าทูนเดินมาดึงแขน 2 ครั้งจนล้ม
จากนั้นจึงโมโห ชกหน้าทูน 3 ที
ยืนยันว่าไม่ได้รุม แค่ ตอบโต้เพราะถูกกระทำก่อน
วิเคราะห์ตามหลักพฤติกรรม
ทั้งสองฝ่าย น่าเชื่อถือบางส่วน และ น่าสงสัยบางจุด
ฝ่ายทูน – พูดคล้ายคนที่ช็อกกับการถูกกระทำ แต่
พูดถึงการถูกชกโดยไม่เห็นหมัด (เพราะตาขวาบอด) = มีเหตุผลที่ไม่ป้องกันตัวได้
แต่ไม่กล่าวถึง การดึงแขนวัยรุ่น ซึ่งอีกฝ่ายพูดตรงกัน – จุดนี้ อาจเป็นสิ่งที่ทูน ไม่พูด เพื่อคงภาพผู้เสียหายไว้ ฝ่ายวัยรุ่น – เน้นว่า ถูกดึงก่อนจึงตอบโต้ แต่
บอกว่าถูกดึง 2 ครั้ง จนล้ม แต่ลุกขึ้นมาชกถึง 3 หมัด แถมเป็นผู้เยาว์กับผู้สูงอายุ – ขาดความพอดีในการป้องกันตัว
ไม่มีภาพหรือพยานสนับสนุนว่าถูกทำร้ายก่อน
อ้างว่ามี แฟนทูน เข้ามารุม แต่ฝ่ายทูนไม่ได้พูดถึงเลย
แปลว่า มีคนหนึ่ง พูดไม่หมด และอีกคนหนึ่ง อาจพูดเกินจริง ทนายดัง จับพิรุธคดี ทูน หิรัญทรัพย์ ถูกโจ๋ทำร้าย ใครโกหก พูดไม่หมด
วิเคราะห์ตามหลักกฎหมาย
กรณี วัยรุ่นชกผู้สูงอายุ
แม้จะอ้างว่าถูกกระทำก่อน แต่การ ชก 3 หมัดเข้าหน้าคนตาบอด เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ
การป้องกันตัวตาม ป.อาญา มาตรา 68 ต้อง ได้สัดส่วน – พอสมควร – ไม่ใช่การลงโทษ หาก ทูน ดึงแขนก่อนจริง
การกระทำของทูนจะเข้าข่ายละเมิดเล็กน้อย (ดึงแขนโดยไม่มีอันตราย) วัยรุ่นควรปัดป้องหรือถอย ไม่ใช่ตอบโต้ด้วยกำลังรุนแรง
วิเคราะห์ตามจิตวิทยาเหตุการณ์
คนมีอายุอย่างทูน มักใช้ อำนาจเชิงสังคม (Social Authority) เช่น การตักเตือนโดยตรง
วัยรุ่นบางคนที่ไม่ยอมให้ผู้ใหญ่สั่งสอน อาจตีความว่าเป็นการดูถูกหรือคุกคาม
การโต้กลับด้วยกำลังจึงเป็น ปฏิกิริยาทางอัตตา ไม่ใช่การป้องกันตัวแท้จริง
สรุปในฐานะ ทนายรณณรงค์ มีโอกาสสูงว่า ทั้งสองฝ่ายต่างพูดไม่หมด
ฝ่ายทูน อาจไม่ได้เล่าว่าตนเข้าไปดึงแขนก่อน
ฝ่ายวัยรุ่น อาจพูดลดน้ำหนักความรุนแรงของตัวเอง เพื่อให้ดูเป็นฝ่ายถูกกระทำ
แต่ในทางกฎหมาย – การชกหน้าผู้สูงอายุที่ตาบอด แถมยังมีท่าทีฮึดฮัดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะกลายเป็น ฝ่ายเสียเปรียบ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้