ทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ เซสพีเดส นักแสดงรุ่นใหญ่วัย 69 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 หลังถูกวัยรุ่น 2 คนรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ขณะเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา เปิดเผยเรื่องราวจากฝั่ง “ทูน หิรัญทรัพย์” ทูน หิรัญทรัพย์ เล่าว่า ตนเองพร้อมครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟย่านคลองถม ระหว่างนั้นมีผู้คนเข้ามาทักทายตามปกติในฐานะดารา แต่กลับมีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่สุภาพทำนองว่า “ดาราอะไร ไม่เคยรู้จัก” ตนเองจึงตักเตือนในฐานะผู้ใหญ่ว่าควรให้เกียรติผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่อาวุโสกว่า จนเกิดปากเสียงกัน วัยรุ่นคนดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอด ทำให้ไม่เห็นหมัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าระงับเหตุ แต่คู่กรณียังคงแสดงท่าทีไม่พอใจ ก่อนถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตนเองก็ได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
นักแสดงรุ่นใหญ่ยังเผยอีกว่า ตลอดชีวิตการเป็นนักแสดงไม่เคยถูกทำร้ายร่างกายเช่นนี้มาก่อน มีแต่ผู้คนเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปด้วยมิตรไมตรี ซึ่งตนเองไม่เข้าใจว่าเหตุใดวัยรุ่นสมัยนี้จึงไม่รู้จักการให้เกียรติผู้อาวุโส ไม่รู้จักตนเองเป็นดาราไม่ใช่ปัญหา แต่การพูดจาควรให้เกียรติกัน ยืนยันจะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดเพื่อเป็นเยี่ยงอย่าง
ทางด้าน นายเอ็ม (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี และ นายชาติ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นพนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เล่าว่า ขณะที่ตนเองและนายชาติกำลังขายของอยู่ในร้าน ซึ่งอยู่ใกล้กับร้านที่ ทูน หิรัญทรัพย์ เข้าไปซื้อของ เจ้าของร้านข้างๆ ได้ถามตนเองว่ารู้จักนักแสดงคนดังกล่าวหรือไม่ ตนจึงตอบไปว่า “ไม่รู้จัก” เมื่อ ทูน หิรัญทรัพย์ ได้ยิน จึงพูดขึ้นว่า “ถ้าไม่รู้จักก็ไม่ต้องพูดก็ได้” ตนเองก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร และเดินกลับเข้าร้านไป
แต่ดารารุ่นใหญ่กลับเดินเข้ามาหาและถามว่าใครเป็นคนพูดแบบนี้ พร้อมทั้งพูดขู่ว่า “ระวังอายุสั้นนะ เป็นคนขายของต้องพูดดีๆ หน่อย” และมีคำพูดอื่นๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งตนก็ไม่ได้ตอบโต้และยกมือไหว้ แต่ไม่ได้กล่าวขอโทษ เมื่อตนเองพยายามจะเดินหนี กลับถูกดารารุ่นใหญ่ดึงแขน 2 ครั้งจนเสียหลักล้มลง ด้วยความโมโหจึงลุกขึ้นชกเข้าที่ใบหน้าของ ทูน หิรัญทรัพย์ 3 ครั้ง ยืนยันว่าตนเองไม่ได้รุมทำร้าย แต่กลับถูกแฟนของดารารุ่นใหญ่เข้ามาช่วยรุมทำร้ายตนเอง จึงทำให้นายชาติซึ่งเป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยกันเข้ามาห้าม ไม่ใช่การไปรุมทำร้าย
นายเอ็ม ยังกล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุอยากให้เรื่องทุกอย่างจบลง เพราะต้องการทำงานทำมาหากิน และยืนยันว่าตนเองถูกกระทำก่อน รู้ตัวว่าเป็นเด็ก แต่หากผู้ใหญ่ไม่กระทำเช่นนั้นก่อน ตนเองก็คงไม่ก่อเหตุนี้ขึ้น การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้น พนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 ได้สอบปากคำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายแล้ว และได้ทำใบส่งตัวเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย เมื่อผลตรวจร่างกายออกมาแล้ว จะเรียกคู่กรณีทั้งสองมาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก่อนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ ทีมข่าว กรุงเทพมหานคร รายงาน