วันที่ 6 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เป็นไปอย่างเงียบเหงา ต่างจากทุกวันศุกร์ ซึ่งเป็นตลาดนัดใหญ่จะมีชาวกัมพูชา เดินขึ้นมาหาซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค มากกว่า
นายอดิชาติ คำเบ้า อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 ม.10 ต.จันทบเพชร อ. บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ คนขับวินรถจักรยานยนต์บริเวณจุดผ่อนปรนช่องสายตะกู เล่าว่าตอนนี้ไม่ปิดก็เหมือนปิดด่านชายแดน เพราะประชาชนฝั่งกัมพูชา ไม่กล้าข้ามมาซื้อของฝั่งไทยเหมือนมีคนสั่งห้ามหรือไม่ตนไม่ทราบ
โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานกัมพูชา ที่ใช้รถเข็นรับจ้างขนของข้ามฝั่งซึ่งมีมากกว่า 60 คันไม่มารับจ้างเหมือนปกติทั้งที่วันศุกร์จะเป็นตลาดนัดใหญ่ของทุกสัปดาห์ แต่กลับไม่มีใครเข้ามารับจ้างแม้แต่คนเดียว
นางดาวนภา พุสาโรนา อายุ 54 ปี แม่ค้าขายทุเรียน ตลาดช่องสายตะกู บอกว่าครั้งนี้ถือว่าตลาดเงียบที่สุดในรอบ 14 ปี ตั้งแต่ปี 2554 ตอนที่ไทยปะทะกับกัมพูชา มีชาวกัมพูชา เพียงบางส่วนแต่น้อยมากที่อาศัยอยู่ติดชายแดนข้ามมาซื้อของ ซึ่งฝั่งไทยไม่มีใครว่า แต่ฝั่งทางโน้นตนไม่ทราบว่าทำไมไม่ข้ามมา
จากการสอบถามชาวกัมพูชา เล่าว่าจำเป็นที่จะต้องมาใช้ตลาดทางฝั่งไทย เพราะถ้าเดินทางไปซื้อที่ประเทศกัมพูชา จะต้องเดินทางมากกว่า 300 กม.ซึ่งจะมีเพียงคนมีฐานะมีรถเดินทางไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดบุรีรัมย์ รายงาน