จากเหตุการณ์อุกอาจ เมื่อคืนวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลุ่มชายฉกรรจ์ 4-5 คน ขับรถตู้บุกเข้าไปยังโกดังของกรมศุลกากร ภายในพื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เพื่องัดตู้คอนเทนเนอร์ขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางจำนวนมาก และระหว่างหลบหนี ได้ถอยรถพุ่งชนและทับนายสมศักดิ์ หรือ “ลุงบุญนาค” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจนเสียชีวิต ขณะพยายามเข้าขัดขวางการกระทำผิด
ต่อมา ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 5 ราย หนึ่งในนั้นถูกแจ้งข้อหา “รับของโจร” จากการให้ที่พักพิงและซ่อนของกลาง ล่าสุด นายสิทธิศักดิ์ หรือนายแบงค์ ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ขับรถตู้ชน รปภ. ได้เข้ามอบตัวแล้ว
ภาพจาก YouTube :
โหนกระแส [Hone-Krasae] official
รายการ “โหนกระแส” เปิดเผยข้อมูลจาก นายเฉลิมศักดิ์ บัวแก้ว ผู้อำนวยการส่วนของกลาง กองสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร ว่า พื้นที่เก็บของกลางที่ใช้ในโกดังนี้ เป็นพื้นที่เช่าจากการท่าเรือฯ มีตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 55 ตู้ โดย 25 ตู้เก็บของกลางผิดกฎหมาย เช่น บุหรี่ไฟฟ้า ที่เก็บสะสมมาหลายปี โดยไม่มีป้ายระบุเนื้อหาภายในตู้ รู้กันเฉพาะคนใน ซึ่งสร้างข้อสงสัยว่าการโจรกรรมครั้งนี้ “อาจมีคนในชี้เป้า”
สอดคล้องกับข้อมูลจากครอบครัวของลุงบุญนาค ซึ่งเผยว่า ผู้ก่อเหตุรายหนึ่งเคยเป็น รปภ.ที่ทำงานร่วมกับผู้ตาย และรู้จักกันเป็นอย่างดี จึงเกิดข้อสงสัยว่า การถอยรถชนอาจเป็นการกระทำโดยเจตนา เพราะลุงบุญนาคสามารถจำหน้าได้ ไม่ตรงกับคำให้การที่ว่า “ไม่ได้ตั้งใจ”
หลานสาวของผู้ตายเล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ลุงบุญนาครีบไปช่วย รปภ.ที่พบผู้ต้องหาบุกรุก โดยขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังกลุ่มคนร้าย ทำให้ถูกถอยรถพุ่งชนอย่างแรง เสียชีวิตคาที่ ญาติผู้เสียชีวิตยังข้องใจอย่างหนักกับพฤติกรรมของตำรวจ โดยเฉพาะกรณี “นายเบิร์ด” ผู้ต้องหารายแรกที่ถูกจับกุม ญาติยืนยันว่า นายเบิร์ดมีส่วนร่วมในการก่อเหตุ มีผู้ต้องหาอื่นชี้ตัวยืนยัน แต่ตำรวจกลับปล่อยตัวโดยอ้างว่า “ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ” ทั้งที่ตามหลัก นายเบิร์ดควรถูกควบคุมตัวไว้
ภาพจาก YouTube :
โหนกระแส [Hone-Krasae] official
ขณะญาติรออยู่ที่ สน.ท่าเรือ พบว่านายเบิร์ดกำลังจะขี่รถออกจากโรงพัก จึงรวมตัวกันกว่า 10 คนล้อมไว้ไม่ให้หนี จนตำรวจต้องพากลับเข้าไปควบคุมตัวในห้องสืบสวน
ด้าน “รองแต้ม” ชี้ว่า หากผู้ร่วมก่อเหตุให้การชี้ชัด ถือเป็น “ประจักษ์พยาน” ที่มีน้ำหนักมากในชั้นศาล ตำรวจจึงควรควบคุมตัวนายเบิร์ดไว้ก่อน และตั้งข้อสังเกตว่าการปล่อยตัวไปเช่นนี้ อาจทำให้พยานหลักฐานเสียหาย คดีนี้ยังมีเงื่อนงำอีกมาก ทั้งปม “คนใน” และกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ญาติผู้เสียชีวิตรู้สึกว่า “ไม่เป็นธรรม” จึงยืนยันจะติดตามเรื่องนี้จนถึงที่สุด
ภาพจาก YouTube :
โหนกระแส [Hone-Krasae] official
เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์