จากเพจกรณี อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Return Part 6 ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดสะเทือนใจ พร้อมข้อความระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านหลังหนึ่งย่านสุขุมวิท โดยมีเด็กหญิงวัยเพียง 5 ขวบ นอนกอดศพพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วหลายชั่วโมง โดยไม่รู้ว่าพ่อจากไปแล้ว
เหตุเกิดเมื่อเวลา 12.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่งในซอยพึ่งมี 30 เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เมื่อเข้าตรวจสอบพบร่างชายวัยกลางคนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน ข้างกายมีเด็กหญิงวัยประมาณ 4-5 ขวบ นอนกอดร่างพ่อไม่ยอมปล่อย เจ้าหน้าที่พยายามพูดคุยเกลี้ยกล่อมอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เด็กจะยอมออกมาจากร่างของผู้เป็นพ่อ
จากการสอบถามญาติทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวและป่วยเรื้อรังมานานประมาณ 3-4 เดือน แม้ก่อนหน้านี้ยังสามารถพูดคุยได้ แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตอย่างสงบในช่วงกลางคืน ครอบครัวอยู่กันอย่างยากลำบาก และมีเพียงผู้สูงอายุในบ้าน ทำให้การดูแลเด็กเป็นไปอย่างลำบาก
ต่อมา เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ในซอยสุขุมวิท 93 ซอยพึ่งมี 30 ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ โดยมูลนิธิร่วมกตัญญูได้เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในสภาพอิดโรย ผอมแห้ง และหิวโซ เพราะไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน
นายธราทร เกตุลอย อายุ 36 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เล่าว่า “ตอนนั้นมีเพื่อนบ้านมาบอกให้ไปดูพี่คนหนึ่งที่ป่วยอยู่กลางซอย พอผมไปถึง ก็พบหนูน้อยกำลังกอดร่างพ่ออยู่ เราตะโกนเรียกอยู่นานก็ไม่มีเสียงตอบ จึงเข้าไปเขย่าตัวและพบว่าร่างกายเย็นเฉียบ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง จากนั้นเราพยายามเกลี้ยกล่อมน้องให้ออกมาจากจุดนั้น พร้อมหาอาหารและน้ำให้ดื่ม พอให้น้ำเปล่าไป น้องดื่มอย่างรวดเร็ว เหมือนหิวน้ำมานานหลายวัน
เจ้าหน้าที่แพทย์นิติเวชได้ตรวจสอบเบื้องต้นและระบุว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนจะมอบศพให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (วัดคก) ซอยสุขุมวิท 93 แขวงบางจาก เขตพระโขนง
บรรยากาศในที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยความหดหู่ แม้เจ้าหน้าที่จะเคยพบเจอเหตุการณ์หลายกรณี แต่เคสนี้สร้างความสะเทือนใจอย่างมาก โดยเฉพาะภาพที่เด็กน้อยนอนกอดศพพ่ออย่างไร้เดียงสา
ด้านนางกิติมา ลายลิขิต อายุ 84 ปี ซึ่งเป็นป้าของผู้เสียชีวิต และนางภัสพร ชัยสุขเกษม อายุ 62 ปี ลูกพี่ลูกน้องของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้ตายชื่อเล่นว่าตู่ เดิมทำงานรับจ้างทั่วไปและเก็บขวดขาย พอมีลูกก็เลี้ยงลูกคนเดียว แม่เด็กไม่กลับมาดูแล ฉันกับลูกสาวช่วยกันดูแลเด็ก เวลาพ่อต้องออกไปข้างนอก เด็กก็จะติดพ่อมาก พอพ่อล้มป่วยก็ช่วยกันดูแล แต่เราก็อายุมากแล้ว แถมลูกสาวก็ไม่มีงานทำ ต้องออกไปหารายได้ ทำให้ไม่มีเวลาดูเด็กมากนัก วันเกิดเหตุเด็กยังนอนกอดศพพ่ออยู่ตามที่เห็นในคลิป”
ตอนนี้รู้สึกดีใจที่ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้ามาช่วยดูแลน้องก่อน หากวันข้างหน้าเรามีเงินมากพอ ก็จะไปรับน้องกลับมาเลี้ยงเองอีกครั้ง อยากย้ำว่าเราไม่ได้ทอดทิ้งเด็ก เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้เราลำบากจริง ๆ จึงต้องพึ่งพาหน่วยงานรัฐไปก่อน นางกิติมากล่าว