นายยุรนันท์ โนวิน หรือ ต้อม อายุ 30 ปี เจ้าของร้านต.เตี๋ยว ตุ๋น เผยว่า มียายอายุ 76 ปี ถูกรถตู้มาส่งไว้หน้าร้าน แล้วยายก็นั่งอยู่ริมฟุตบาทตากแดดนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยนายต้อมได้ขับรถพาคุณยาย อายุ 76 ปี ชาว อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ไปหาลูกชายที่บ้านพักที่คุณยายเคยอาศัยอยู่ แต่กลับไม่พบตัวลูกชายและลูกสะใภ้ โดยชาวบ้านข้างเคียงบอกว่าบ้านนี้ไม่มีคนเช่ามา 2 เดือนแล้ว
จากนั้นจึงไปที่ทำงานของลูกชายคุณยาย พบว่าลาออกไปแล้ว จึงไปยังต้นสังกัดที่บริษัทยาม เมื่อได้เบอร์จึงโทรไป ทางลูกชายของคุณยายกลับด่าทอ บอกว่าจะมายุ่งวุ่นวายทำไม และไม่บอกว่าอยู่ที่ไหน ไม่ขอรับเลี้ยงแม่ของตัวเอง
ล่าสุด นายต้อม และ คุณยาย เพิ่งกลับมาจากตะลอนหาลูก นั่งตัดพ้อตัวเองว่า แค่อยากมีที่อยู่ที่อาศัย ไปอยู่ที่ไหนก็ถูกไล่ถูกส่งมา ไปอยู่กับพี่สาวที่ จ.นนทบุรี ก็ถูกหลานไล่ให้ออกจากบ้าน มาหาลูกชายก็ไม่รับตนไปอยู่ด้วยอีก”
ขณะที่ คุณยาย เผยอีกว่า ในเมื่อลูกไม่อยากได้ก็ไม่ว่า เราไปบังคับใจเขาไม่ได้ ที่ผ่านมาตนเสียใจมาเยอะแล้ว ตนคิดว่ามีที่ไหนสามารถพักพิงได้ก็จะไป พร้อมจะช่วยทำงานทำการให้ไม่อยากเป็นภาระใคร ไม่มีลูกเราก็อยู่ได้ ขอให้มีงานให้ทำ ตอนนี้ได้เงินผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท สุขภาพก็ไม่ค่อยดีปวดเข่าเดินไม่สะดวก อยากให้ทำงานอะไรทำได้หมด ขอแค่มีที่ซุกหัวนอนเป็นพอ
ทางด้าน นายต้อม เผยว่า ตนได้เจอกับยายตั้งแต่ลงจากรถตู้ เห็นยายนั่งตากแดดอยู่จึงพาเข้ามากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน แล้วถามความเป็นมาจึงได้รู้ว่า จะมาหาลูกชายแต่ลูกไม่อยู่ พายายไปดูที่บ้านก็ไม่อยู่ จึงพาไปที่ทำงานเก่าของลูกชายเขาแต่ไม่เจออีก เพราะเขาแจ้งที่ทำงานไว้ว่าที่เขาลาออกเพราะจะไปบวช
จากนั้นพายายไปที่บริษัทต้นสังกัดที่เขาทำงาน ได้ทราบข้อมูลว่าเขาไม่สบายกำลังรักษาตัวอยู่ จึงทำให้ไม่แน่ใจว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ จึงโทรศัพท์ไปหาและได้รับคำตอบจากลูกชายของยายว่า จะมายุ่งวุ่นวายทำไม จะมาทำไม ตนไม่เข้าใจว่าเขาพูดอย่างนั้นได้อย่างไร นี่คือแม่เขาแท้ๆ ตนช่วยเท่าที่สามารถช่วยได้เต็มที่แล้ว ทำสุดความสามารถตั้งแต่สายยันบ่าย เพราะถ้ายายนั่งอยู่ตรงนี้อาจเป็นอันตรายได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวจึงช่วยประสานไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท เพื่อช่วยเหลือ โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งตัวคุณยายไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชัยนาทอยู่ในการดูแลเบื้องต้น สืบหาข้อมูลญาติพร้อมตรวจประเมินทางการแพทย์ไปประกอบการพิจารณาตามหลักเกณฑ์เข้ารับการอุปการะในสถานสงเคราะห์ต่อไป
