จากกรณีที่โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมของ ครูฝน ครูฝ่ายปกครองของวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ที่ลงโทษเรียน ปวช. ปี 1 ด้วยการนำบุหรี่ผสมน้ำให้นักเรียนที่สูบบุหรี่ 11 คนดื่ม หลังพบพฤติกรรมสูบบุหรี่ของนักเรียนภายในสถาบันหลายครั้ง ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ล่าสุด ครูฝนเปิดใจทั้งน้ำตาเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ยอมรับว่า อาจกระทำเกินกว่าเหตุ แต่ทั้งหมดเกิดจากความตั้งใจจริง ที่อยากให้เด็กหลุดพ้นจากพฤติกรรมเสี่ยง เนื่องจากปัญหานักเรียนก็เป็นกลุ่มเดิมๆ ทั้ง 11 คน ที่แอบสูบบุหรี่กันหลังโรงเรียน ซึ่งติดกับแหล่งชุมชน จนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหลายครั้ง เพราะกลิ่นควันรบกวน แถมบางคนมีโรคประจำตัว
ตอนแรกก็มีการตักเตือน แต่กลับถูกนักศึกษาท้าทายมา 3 – 4 ครั้ง ในทำนอง ยึดไปก็หามาได้อีก สะท้อนถึงการไม่เกรงกลัวกฎระเบียบและไร้ความยำเกรงต่อสังคม ซ้ำยังพยายามหาวิธีซุกซ่อนนำบุหรี่ซุกในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งบางจุดคุณครูผู้หญิงก็ไม่กล้าที่จะค้นตัว จากความหวังดีและความเป็นห่วงอนาคตของเด็ก จึงเลือกใช้วิธีการลงโทษที่รุนแรง โดยนำยาเส้นที่อยู่ในบุหรี่ที่ยึดได้จากนักเรียนเอง ผสมน้ำให้ดื่มเล็กน้อย แค่เพียงให้รู้รสและกลิ่น เพื่อหวังให้เด็กเข็ดขยาดและหลาบจำ แต่ก็ยอมรับว่า มันเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสม จึงอยากจะขอโทษผู้ปกครองรวมถึงสังคมอย่างสุดซึ้ง
ครูฝน กล่าวต่อว่า ครูแค่อยากให้เด็ก ไม่เดินผิดทาง ครูอยากให้สถาบันเป็นพื้นที่สีขาวจริงๆ ไม่มีอบายมุข ไม่มีสารเสพติด ครูรักลูกศิษย์ทุกคน อยากให้มีอนาคตที่ดี พอเรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นดราม่า ครูฝนบอกว่า ไม่ท้อ เพราะมันเป็นผลดีกับเด็กเรียน ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนของตนเองและเด็กๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น ทางวิทยาลัยได้สั่งพักงานครูฝนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อรอผลสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่ผู้ปกครองบางรายเริ่มเสียงแตก หันมาให้กำลังใจและเข้าใจครูฝนมากขึ้น ส่วนชาวบ้านบางส่วนที่ได้รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็มีจำนวนไม่น้อยที่มองว่า สังคมควรให้พื้นที่แก่ครูที่ทำผิดแล้วสำนึก โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดขึ้น เกิดจากเจตนาดี เพียงแต่ผิดวิธีเท่านั้น
