นายแพทย์วัฒนะ ศรีวัฒนา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สถานการณ์โรคเมลิออยโดสิส หรือโรคไข้ดิน จังหวัดมหาสารคาม มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝน เริ่มฤดูกาลทำนา จากรายงานสถานการณ์ทางระบาดวิทยาจังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 17 พฤษภาคม 2568 พบผู้ป่วยจำนวน 24 ราย มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย ในพื้นที่ อ.วาปีปทุม 1 ราย และอำเภอเมือง 2 ราย
โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุด เป็นเพศชาย อายุ 62 ปี อาชีพเกษตรกรรม ภูมิลำเนา ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง ประวัติเริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม มาโรงพยาบาลด้วยอาการ ข้ออักเสบ หายใจหอบเหนื่อย ขาบวม ไม่มีไข้ มีโรคประจำตัวคือโรคไตวายเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดสูง ผู้ป่วยเสียชีวิตวันที่ 13 พฤษภาคม
โดยโรคเมลิออยโดสิสเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei ซึ่งในประเทศไทยส่วนใหญ่พบในพื้นที่ภาคอีสาน โดยพบเชื้อเมลิออยได้ในดิน น้ำ และสัตว์หลายชนิด เช่น โค กระบือ แพะ แกะ ม้า สุกร ลิง และสัตว์แทะ เป็นแหล่งแพร่โรค โรคนี้ติดต่อโดยการได้รับเชื้อเข้าไปทางบาดแผล หรือโดยการกิน และการหายใจ
คนที่ติดส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เวลาลุยน้ำ ช่วงหน้าฝน ก็สามารถทำให้เชื้อโรคที่เป็นปกติ ฉกฉวยโอกาส ที่จะติดเข้าสู่ร่างกายได้ ผู้ป่วยอาจมีตั้งแต่อาการเล็กๆ น้อยๆ จนถึงขั้นรุนแรงมาก เช่น มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปอดบวม อาจจะมีแผลเป็นรอยโรค ซึ่งจะคล้ายกับโรคฉี่หนู เกิดจากการลุยน้ำ เหยียบย่ำพื้นดิน หรือสัมผัสโรคจากละอองที่ลอยมากับอากาศ ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตในเวลาอันรวดเร็วมาก
การป้องกัน คือ หากลุยน้ำมา ขอให้ล้างมือ ล้างเท้าให้สะอาด ถ้ามีแผลก็ต้องระวังดูแลบาดแผลให้ดี โรคสามารถติดได้ 3 ทาง คือ ทางเดินหายใจจากการสูดดม การกิน การสัมผัส ต้องระวังโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัว หากพื้นที่ไหนเคยพบผู้ป่วยให้ถือว่าเป็นพื้นที่ที่จะต้องเฝ้าระวัง