พ.ต.ท.จรัญ สุขสวัสดิ์ สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งจากชาวบ้าน พบศพคนนอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถบริเวณท้ายกระบะรถ จอดอยู่ริมชายหาดทะเลบ้านคลองวาฬ เขตเทศบาลคลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯ และพญ.ธิดาพร เปล่งอุดมกิจ แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน มีหลังคาคลุมกระบะ หมายเลขทะเบียน บง 5645 สมุทรสาคร จอดอยู่ริมชายหาดทะเลบ้านคลองวาฬ เขตเทศบาลคลองวาฬ ห่างจากอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ประมาณ 200 เมตร
โดยมีลูกชายซึ่งป่วยออทิสติกอายุ 11-12 ปี นั่งเฝ้าศพพ่ออยู่ท้ายกระบะ ตรวจสอบบริเวณท้ายกระบะ พบศพชาย 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพนอนหงาย สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ สภาพขึ้นอืดผิวหนังหลุดร่อน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน
ทราบชื่อคือนายเอกพล ช้างทรัพย์ อายุ 59 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใกล้กันพบอุปกรณ์ตกปลา คันเบ็ดตกปลา พร้อมรอก 2 คัน กระติกน้ำ 2 ใบ และรองเท้าแตะสีแดง 1 คู่ คาดว่าเป็นของผู้ตาย
สอบถามเด็กซึ่งเป็นลูกของผู้ตายเบื้องต้นทราบว่า มีโรคประจำตัวคือป่วยโรคไต ขับรถมาจอดตกปลาอยู่ชายทะเล พร้อมกับลูกชาย 2 คน อายุประมาณ 12 ปี 1 คน ป่วยเป็นออทิสติก และลูกชายอายุประมาณ 6-7 ขวบ อีก 1 คน ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านเช่าประมาณ 1 กิโลเมตร
ต่อมาลูกที่ป่วยออทิสติกไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว คิดว่าพ่อนอนหลับ จึงนั่งเฝ้าร่างของพ่ออยู่ชายทะเลไม่ได้กินข้าว กินแต่อาหารบางส่วนที่พกไป จนมีเจ้าของบ้านเช่าไปแจ้งความกับตำรวจว่าผู้เช่าบ้านหายไป 3 วันแล้ว พบแต่ลูกชายของผู้เช่าบ้านวัย 6-7 ปี เดินกลับมาบ้านเช่าบอกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว
ด้าน พญ.ธิดาพร เปล่งอุดมกิจ แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับตำรวจว่า จากการชันสูตรเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต ต้องนำศพไปชันสูตรที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์
ตำรวจได้ให้กู้ภัยนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด ในที่เกิดเหตุเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย จากนั้นจะประสานญาติให้มารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และรับลูกของผู้เสียชีวิตไปอยู่กับญาติต่อไป
ด้านเจ้าของบ้านเช่า เปิดเผยว่า ผู้ตายได้มาเช่าบ้านก่อนหน้านี้ประมาณ 2 วัน หลังจากนั้นก็หายออกจากบ้านไปพร้อมลูก ต่อมาลูกชายของผู้ตายอายุประมาณ 7 ขวบได้เดินกลับมาบ้าน จึงถามว่าพ่อไปไหน เด็กบอกว่าพ่อเสียชีวิตแล้วฟื้น แล้วก็เสียชีวิตใหม่ ตอนแรกตนยังคิดว่าเด็กพูดเพ้อเจ้อ
เจ้าของบ้านเช่า กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นผ่านไป 3 วัน ผู้เสียชีวิตก็ยังไม่กลับมาบ้าน จึงเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.คลองวาฬ และให้ลูกของผู้ตายวัย 7 ขวบ พาไปหาพ่อที่จุดเกิดเหตุ จึงพบว่านอนเสียชีวิตแล้ว
