ตำรวจแปดริ้วโชว์ฝีมือ ตามรวบโจรลักรถข้ามเขตจาก กทม.ได้ทันใจชาวบ้าน

วันที่ 13 มี.ค.68 เวลา 09.30 น. ที่หน้า สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รอง ผบก. พ.ต.อ.ภูริทัต บุญช่วย ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้นำรถจักรยานยนต์ของกลางจำนวน 7 คันที่ถูกคนร้ายโจรกรรมจากคอนโดที่พักอาศัยในพื้นที่ย่านถนนสุวินทวงศ์ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 ที่ผ่านมา นำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมภาพถ่ายและพฤติการณ์ของคนร้ายขณะก่อเหตุและผลการสืบสวนจับกุม

โดย พ.ต.อ.ภูริทัต ได้แถลงถึงเหตุการณ์และพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 มี ปชช.ผู้เสียหายจำนวน 4 รายได้เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ยังที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทราว่า ได้จอดรถ จยย.ไว้ยังบริเวณที่พักอาศัย และเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่ารถจักรยานยนต์ได้หายไป จึงได้รายงานต่อทาง พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ฉช. และมีการสั่งการลงมาให้สนธิกำลังติดตามจับกุมคนร้าย จากการสืบสวนติดตามสามารถจับกุมคนร้ายได้จำนวน 2 คนแล้ว

ตำรวจแปดริ้วโชว์ฝีมือ ตามรวบโจรลักรถข้ามเขตจาก กทม.ได้ทันใจชาวบ้าน

ประกอบด้วยนายวัชรพงษ์ (เต๋า) แซ่เตียว อายุ 22 ปี และนายฟารีฟ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาวเขตคันนายาว กทม. โดยทั้งสองคนมีประวัติในการก่อเหตุลักทรัพย์รถ จยย.มาก่อนแล้ว และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียงประมาณ 6 เดือน แต่ได้กลับมากระทำการก่อเหตุซ้ำอีก พ.ต.อ.ภูริทัต ระบุ

ส่วนด้าน พ.ต.ท.ศราวุธ ศรีรักยิ้ม รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้กล่าวถึงการสืบสวนจับกุมว่า พฤติการณ์ในการก่อเหตุคนร้ายมีจำนวน 6 คนขับรถ จยย.มาจำนวน 2 คัน ด้วยการซ้อนท้ายกันมาคันละ 3 คน โดยมีการแบ่งงานกันทำ ซึ่งคนร้ายคนแรกได้เข้าไปสำรวจเดินดูรถเป้าหมายยังในที่จอดรถของคอนโดแห่งหนึ่ง เมื่อพบรถรุ่นเวฟ 110ไอ ตามที่ต้องการแล้ว จึงได้เอามือสอดเข้าไปที่ใต้แฝงคอเพื่อต่อตรงด้วยวิธีการแกะสวิตช์ และนำสายไฟเข้ามาจี้ให้ไฟแผงหน้าปัดโชว์ขึ้นมา

จากนั้นคนร้ายอีกคนจะเข้ามาทำการขึ้นคร่อมที่ตัวรถแล้วใช้เท้ายันที่มือจับด้านซ้าย เพื่อหักเขี้ยวเกี่ยวแผงล็อคคอรถให้หลุด จากนั้นจะทำการเข็นออกมายังนอกรั้วและทำการทดลองสตาร์ทรถ เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้วจึงนำมาจอดรอ โดยที่คนร้ายคนแรกจะเข้าไปเดินหารถคันต่อไปอีก ในขณะเดียวกันคนร้ายอีก 3 คน ที่มีการสวมหมวกนิรภัย (กันน็อค) ได้ขับรถ จยย.เลยจากด้านหน้าเอกสิทธิ์คอนโด ม.5 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ที่เกิดเหตุไปเล็กน้อย

ตำรวจแปดริ้วโชว์ฝีมือ ตามรวบโจรลักรถข้ามเขตจาก กทม.ได้ทันใจชาวบ้าน

ก่อนที่จะปีนรั้วเข้าไปสมทบกับคนร้ายกลุ่ม 3 คนแรก และร่วมกันนำรถออกมา และพากันขับรถกลับไปตามเส้นทาง ถ.สุวินทวงศ์ เข้าสู่ กทม. เมื่อมาถึงยังที่หน้าหมู่บ้านสุวินท์ธารา ใน ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา คนร้ายจำนวน 2 คนยังได้เข้าไปในที่ บีดีอพาร์ตเมนต์ และเข้าไปยังในที่จอดรถ พร้อมกับได้ทำการโจรกรรมรถตามพฤติกรรมแบบเดียวกันอีก จนได้รถเพิ่มไปอีก 1 คัน

จากการสืบสวนได้ทำให้ติดตามไปพบรถที่ถูกโจรกรรมไป พร้อมด้วยรถของคนร้ายที่ใช้ขับมาก่อเหตุ และคนร้ายทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นผู้รับซื้อรถไว้ในราคาคันละ 1 หมื่นบาท เพื่อเตรียมนำส่งไปขายยังในเขตพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ด้วยการถ่ายภาพรถส่งผ่านไปทางระบบแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อให้ผู้ซื้อดูก่อน หากลูกค้าตกลง จะขายได้ในราคาประมาณ 15,000 – 17,000 บาท โดยที่ทางผู้ซื้อจะแจ้งให้ทั้ง 2 คนขับรถไปจอดไว้ยังในจุดพักคอยที่นัดหมายไว้ และติดต่อผ่านทางแอพพลิเคชั่นของบริษัทขนส่ง ให้เข้ามารับตามจุดที่นำรถไปจอดไว้ จากนั้นจึงมีการโอนเพื่อจ่ายเงินซื้อขายกัน

ตำรวจแปดริ้วโชว์ฝีมือ ตามรวบโจรลักรถข้ามเขตจาก กทม.ได้ทันใจชาวบ้าน

จากพฤติการณ์ที่สืบสวนได้ จึงทำให้ จนท.ได้ทราบว่านายฟารีฟ ซึ่งเป็นเยาวชนวัยเพียง 17 ปีนั้นเป็นหัวหน้าหนึ่งในแก๊งค์คนร้าย 6 คนนี้ด้วย ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุคนอื่นๆ ต่อไปให้ได้โดยเร็ว โดยในขณะนี้ได้ทราบตัวคนร้ายและออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คนแล้ว และจะทำการขยายผลเพิ่มเติม เพื่อทำการจับกุมให้ได้ทั้งหมดยกแก๊งค์

สำหรับคนร้ายกลุ่มนี้ ได้ทำการก่อเหตุโจรกรรมรถส่วนใหญ่ในพื้นที่ กทม. หลังจากทาง สภ.เมืองฉะเชิงเทราจับกุมได้แล้ว ได้มี จนท.จาก สน.ต่างๆ ในเขต กทม.จำนวน 3-4 แห่ง ได้ขอเข้ามาสอบปากคำร่วมด้วย จึงเชื่อว่าน่ามีการทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขบายผลต่อไป พ.ต.ท.ศราวุธ กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ต.เกรียงไกร ได้กล่าวฝากเตือนไปถึงยัง ปชช.ว่า จากพฤติการณ์ในการก่อเหตุของคนร้ายนั้น ขอให้เจ้าของรถที่จอดพักค้างคืนในที่พักอาศัย หรือต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานนั้น ขอให้ล็อคกุญแจที่ห่วงขาตั้งคู่ไว้ด้วย เพราะหลังจากที่คนร้ายแก๊งค์นี้ได้เข้ามาลงมือก่อเหตุ แล้วใช้เท้าถีบจนเขี้ยวกุญแจล็อคตอหลุดจากกันแล้วพร้อมกับได้ต่อสายตรงไว้ แต่คนร้ายไม่สามารถนำรถที่เจ้าของรถล็อคกุญแจที่ขาตั้งเอาไว้ออกไปจากที่เกิดเหตุได้จำนวน 1 คัน

ตำรวจแปดริ้วโชว์ฝีมือ ตามรวบโจรลักรถข้ามเขตจาก กทม.ได้ทันใจชาวบ้าน

จึงอยากฝากเตือนให้ประชาชนได้ใช้กุญแจล็อคที่ห่วงขาตั้งคู่เอาไว้ด้วย เพื่อความปลอดภัยในการจอดรถจากการโจรกรรมของคนร้ายได้เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ขณะที่รถที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดมืด หรือแก็งค์โจรกรรมรถนั้น คือ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ รุ่น 110 i ขณะที่เจ้าของหอพักจะต้องมีมาตรการในการป้องกันทรัพย์สินให้แก่ลูกบ้านด้วย พล.ต.ต.เกรียงไกร กล่าว

หลังการแถลงข่าวได้มีชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของรถ จยย.ที่ถูกโจรกรรมไปจำนวน 2 ราย ได้เดินทางมามอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นการขอบคุณให้แก่ทาง จนท.ตำรวจ ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและสามารถติดตามทรัพย์สินกลับคืนมาได้ทั้งหมด โดย นายชาญยศ เอียจะบก อายุ 36 ปี ชาว ม.8 ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา หนึ่งในเจ้าของรถที่เข้ามามอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจต่อทางเจ้าหน้าที่ เล่าว่า ตนมีชีพเป็นไลน์แมนขับรถส่งของ ได้นำรถ จยย.เข้ามาจอดไว้ที่ใต้คอนโดที่พักในเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 10 มี.ค.68 และหลังจากตื่นนอนขึ้นมาในช่วงเช้าเวลา 07.50 น. ปรากฏว่าไม่พบรถของตนเองที่จอดไว้ จึงตกใจมาก

ตำรวจแปดริ้วโชว์ฝีมือ ตามรวบโจรลักรถข้ามเขตจาก กทม.ได้ทันใจชาวบ้าน

เมื่อเดินหาจนทั่วแล้วไม่พบ จึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ในวันที่ 11 มี.ค.68 ดังกล่าว โดย จนท.สามารถติดตามจับกุมคนร้ายและได้รถกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็วมาก จึงรู้สึกดีใจและโล่งใจมากที่ได้รถคืนโดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนหาเงินซื้อรถใหม่เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพต่อไป แม้อุปกรณ์ทำงานที่ตัวรถ เช่น ขาจับโทรศัพท์ กล่องไลน์แมน และตะกร้าหน้ารถ

ที่ผ่านมาเคยแต่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับการโจรกรรมรถหาย แต่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตนเอง โดยหลังจากรถถูกโจรกรรมไปแล้ว ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงครอบครัวไปแล้วจำนวน 2 วัน จึงขอขอบคุณต่อทาง จนท.ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง นายชาญยศ กล่าว

ผู้สื่อข่าวจังหวัดฉะเชิงเทรา รายงาน

Leave a Comment