วันที่ 15 มิ.ย. 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รองผบก.น.6 พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รองผกก.สส.สน.พระราชวัง , พ.ต.ท.เดชา พรมโสภา สว.สส.สน.พระราชวัง พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง ร่วมกันจับกุมตัว น้ำเพชร อายุ 28 ปี ข้อหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” ซึ่งเป็นผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 3289/2568 ลงวันที่ 9 มิ.ย. 2568 จับกุม บริเวณซอย เพชรเกษม 2 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. เวลาประมาณ 07.30 น. ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2568 ตั้งแต่เวลา 14.05 ถึง 17.26 น. น้ำเพชร มาทดลองงานเป็นพนักงานจัดเรียงสินค้า ภายในชั้น 1 ของร้านทองแห่งหนึ่ง ย่านวังบูรพา ดิโอสยาม ถนนเจริญกรุง โดยมีหน้าที่จำหน่ายขายทองแท่งและรูปพรรณ ตามราคาสมาคมผู้ค้าทองคำ และราคาค่ากำเหน็จที่ทางร้านทองได้กำหนดไว้ในแต่ละวันและแต่ละชิ้นงานเพียง 1 วัน ซึ่งในวันถัดมา น้ำเพชรหายไปไม่สามารถติดต่อได้
ประกอบกับการที่ทางร้านทอง ได้ตรวจสอบข้อมูลการจัดเก็บปริมาณทองคำรูปพรรณ ในส่วนชั้น 1 ของร้านทอง ปรากฏพบว่า มีทองคำรูปพรรณ ได้สูญหายไป ประมาณ 6 บาททอง จึงได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในชั้น 1 พบว่า ในระหว่างที่ น้ำเพชร ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในชั้น 1 ของร้านทอง ได้ทุจริตต่อหน้าที่ โดยลักทองรูปพรรณ สร้อยคอมือทองคำ 96.5% ไปจำนวนทั้งสิ้น 4 ครั้ง โดยมีน้ำหนักทอง มูลค่า 6 บาททอง รวมจำนวน 4 เส้น
โดยแบ่งเป็น ประเภท สร้อยข้อมือทองคำ ประเภท 96.5% น้ำหนัก 2 บาททอง จำนวน 2 เส้น และ น้ำหนัก 1 บาททอง จำนวน 2 เส้น มูลค่าความเสียหาย เป็นเงินทั้งสิ้น 312,600 บาท จากนั้นได้ลักลอบ นำทองรูปพรรณที่ได้ประทุษร้ายไปนั้น ลักลอบนำออกจากร้านทอง
ซึ่งทางร้านทอง ได้พยายามติดต่อกลับไปหา น้ำเพชร แต่ไม่สามารถติดต่อได้เช่นเดิม จึงได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง เพื่อแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินดคีกับตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมรับแจ้งจากสายลับว่า น้ำเพชร จะมาปรากฏตัวอยู่ภายในซอย เพชรเกษม 2 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปเฝ้าติดตามจับกุม เมื่อพบจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงหมายจับให้ น.ส.กาญจนา ทราบ จึงยอมรับว่า ตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน
จากนั้นจึงได้นำตัวมาที่ห้องปฏิบัติการ ฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง เพื่อดำเนินการจัดทำบันทึกการจับกุม พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน
