สืบนครบาล ร่วมกับ ชุด PCT ตามรวบกลุ่มผู้ครอบครองอาวุธปืนเถื่อน

วันนี้ (21 ก.พ. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ได้นำหมายค้นศาลอาญาที่ 111/2568 ลง 19 ก.พ.68 เข้าตรวจค้นห้องพักภายใน ซอยโชคชัย 20 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพ ก่อนทำการตรวจค้นได้พบกับนายพิสิฐกานต์ฯ เจ้าของห้องพักดังกล่าวกลับมาจากที่ทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว เพื่อทำการค้นตัว และห้องพัก

ผลการตรวจค้นตัว นายพิสิฐกานต์ฯ พบของกลางดังนี้

1.อาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก

2.เเมคกาซีนพร้อมลูกกระสุน จำนวน 8 นัด

3.ลูกกระสุนปืนในกระเป๋าสะพาย จำนวน 7 นัด

ผลการตรวจค้นห้องพัก นายพิสิฐกานต์ฯ พบของกลางดังนี้

1.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ .38 จำนวน 1 กระบอก

2.ลูกกระสุนปืนในกล่องขนาด 9 มม. จำนวน 33 นัด

สืบนครบาล ร่วมกับ ชุด PCT ตามรวบกลุ่มผู้ครอบครองอาวุธปืนเถื่อน

จากการซักถามเกี่ยวกับอาวุธปืน และเครื่องกระสุน นายพิสิฐกานต์ฯ ให้การว่าปืนและเครื่องกระสุนปืนเป็นของตนเอง ซึ่งตนได้สั่งซื้อปืนไทยประดิษฐ์ดังกล่าวผ่านช่องทางออนไลน์ โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยผิดกฎหมาย และข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น กำชับการกระทำความผิดกฎหมายของกลุ่มอาชญากรรมต่างๆ ให้สืบสวนจับกุมให้เด็ดขาดโดยเฉพาะ การครอบครองและค้าขายอาวุธปืนเถื่อนเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมปัญหาอาวุธปืนเถื่อนถือเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยในสังคม การครอบครองหรือใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มความเสี่ยงต่ออาชญากรรมรุนแรง เช่น การปล้นฆ่า คดีอุกฉกรรจ์ และปัญหาความรุนแรงในครอบครัว นอกจากนี้ อาวุธปืนเถื่อนมักถูกใช้ในเหตุการณ์ความไม่สงบหรือความขัดแย้งต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน สำหรับโทษของการครอบครองหรือค้าขายอาวุธปืนเถื่อนนั้นตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 กำหนดไว้ว่า: การมีไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

สืบนครบาล ร่วมกับ ชุด PCT ตามรวบกลุ่มผู้ครอบครองอาวุธปืนเถื่อน

– หากเป็นปืนที่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

– แต่ถ้าเป็น อาวุธปืนที่ห้ามมีไว้ในครอบครอง เช่น ปืนสงคราม โทษจะหนักขึ้น คือ จำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 6,000 บาท ถึง 40,000 บาท การค้า นำเข้า หรือผลิตอาวุธปืนเถื่อน

– เป็นความผิดร้ายแรง มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 40,000 บาท

– หากเป็นการค้าอาวุธปืนสงคราม โทษจะสูงขึ้น และอาจเข้าข่ายความผิดฐานก่อการร้าย หรือความผิดร้ายแรงอื่นตามกฎหมาย การพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

– มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผลกระทบของอาวุธปืนเถื่อนมีหลายด้านเช่น : ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเมื่อปืนเถื่อนตกไปอยู่ในมือของอาชญากรหรือผู้ไม่หวังดี ย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อเหตุการณ์รุนแรง เช่น การปล้น ฆาตกรรม และอาชญากรรมอื่น ๆ ปัญหาการก่ออาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น มีสถิติที่ชี้ให้เห็นว่าการมีอาวุธปืนเถื่อนในระบบส่งผลให้คดีอาชญากรรมรุนแรงเพิ่มขึ้น เช่น การทะเลาะวิวาทที่จบลงด้วยการใช้อาวุธปืน อาวุธปืนเถื่อนบางส่วนอาจถูกนำไปใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การค้ายาเสพติด การก่อการร้าย หรือขบวนการอาชญากรรมการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตรวจสอบ แกะรอย และปราบปรามเครือข่ายค้าอาวุธปืนเถื่อนอย่างจริงจัง

สืบนครบาล ร่วมกับ ชุด PCT ตามรวบกลุ่มผู้ครอบครองอาวุธปืนเถื่อน

สืบนครบาล ร่วมกับ ชุด PCT ตามรวบกลุ่มผู้ครอบครองอาวุธปืนเถื่อน

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

Leave a Comment