อดีต ผกก.โคกเคียน เปิดใจแล้ว หลังแจ้งจับ ผบช.ภ.9 – ผู้การนราธิวาส บุกรุกพังประตูห้อง วอนนายกฯ แพทองธาร – ภูมิธรรม ย้ายทั้ง 2 คน เพื่อความเป็นธรรมในการสอบสวน ไม่กดดันพยาน
จากกรณี พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธุ์ ผกก.สภ.โคกเคียม จ.นราธิวาส ซึ่งถูกคำสั่งให้ช่วยราชการ ศปก.ภ.จ.นราธิวาส เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 และ พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ข้อหาร่วมกันบุกรุกเคหสถาน
โดยเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2568 พ.ต.อ.วีรยุทธ มาพบพนักงานสอบสวนเวร เพื่อแจ้งว่าได้รับแจ้งจากตำรวจขอปิดนามว่า พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ และ พล.ต.ต.ไมตรี พร้อมพวกได้ทำลายประตูบ้านพักของผู้แจ้งทำให้เกิดความเสียหาย เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. สถานที่เกิดเหตุ บ้านพักตำรวจ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส โดยผู้แจ้งยังไม่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านพักว่าสูญหายหรือถูกทำลายหรือไม่ จึงแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.ไมตรี มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.วีรยุทธ ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดหลังแฟลตตำรวจ สภ.โคกเคียน ส่งผลให้ตำรวจและเด็กได้รับบาดเจ็บ 10 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย.
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 28 เม.ย.68 พ.ต.อ.วีรยุทธ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่เข้าร่วมบุกรุกบ้านพักในวันเกิดเหตุกับผู้บังคับบัญชา หากให้ความร่วมมือเป็นพยานให้ จะถอนแจ้งความไม่ดำเนินคดี
พ.ต.อ.วีรยุทธ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพฤติการณ์ของ ผบช.ภ.9 ส่วนตัวคิดว่าไม่มีคุณธรรม ไม่มีความเมตตากับผู้ใต้บังคับบัญชา ตนในฐานะเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 50 ที่ผ่านมาเคารพนับถือรุ่นพี่ทุกคน รับราชการมา 30 กว่าปีแล้ว ไม่เคยออกมาร้องเรียนอะไรสักอย่าง ทำให้ภาพพจน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย ทำงานในพื้นที่ตลอด มีผลงานการปฏิบัติเป็นที่ประจักษ์
พ.ต.อ.วีรยุทธ กล่าวว่า ต้องการให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ผบ.ตร. นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีฯ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานประธษนคณะกรรมาธิการการตำรวจ ลงมาตรวจสอบ อยากให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความยุติธรรม ไม่มีการข่มขู่พยาน อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ให้ ผบช.ภ.9 ไปช่วยราชการก่อน หาคนอื่นมารักษาราชการแทน และให้ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส ไปช่วยราชการด้วย หาคนอื่นมารักษาราชการแทน เพื่อจะได้สอบข้อเท็จจริงการสอบสวนเป็นไปด้วยความยุติธรรม ไม่กดดันพยาน ซึ่งพยานก็เป็นตำรวจ
“การต่อสู้ในเรื่องนี้ ผมไม่มีใครช่วยเหลือ ผมมีภรรยายืนเคียงข้างความถูกต้อง ผมรู้ว่าผู้บังคับบัญชาแต่ละคนก็มีแบล็กอยู่แล้ว ผมไม่อะไร ผมสู้ด้วยตัวคนเดียว เพราะคดีนี้เป็นคดีอาญา”
ด้านพล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวปล่อยให้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ ผบช.ภ.9 เป็นผู้ดำเนินการตามขั้นตอน ไม่อยากตอบโต้กันไปกันมา ไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะความจริงคือความจริง ปล่อยให้เคลื่อนไหวไปคนเดียว