วันที่ 28 เมษายน 2568 จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง นำคลิปวิดีโอมีชาย 3 คนมากับรถกระบะตู้ทึบ สีขาว ซึ่งจากวิดีโอดังกล่าวจะเห็นมีชาย 2 คนลงมา มีท่าทีคล้ายกับว่าจะอุ้มเด็กชาย 2 คนที่ปั่นจักรยานเล่นอยู่ ซึ่งขณะนั้นได้มีรถกระบะขับผ่านมา ชายทั้ง 2 คนจึงรีบปล่อยเด็ก ก่อนขึ้นรถกลับไปล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ อบต.ปากข้าวสาร จ.สระบุรี ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบรถกระบะตู้ทึบ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผข 4054 สพรรณบุรี ขับออกจากหมู่บ้านชมชนหลังเกษมราษฎร์ เวลา 15.18 น. ซึ่งยังไม่เห็นว่ารถคนร้ายเข้ามาในหมู่บ้านเวลาใด จะดำเนินการตรวจสอบวงจรปิดเทศบาลวันเวลาทำการ ต่อไปจากการสอบถามเด็กชายหนึ่งใน 2 คนที่อยู่ในกล้องวงจรปิด กล่าวว่า ขณะที่กำลังปั่นจักรยานเล่นอยู่กับเพื่อนนั้น ได้มีชายคนขับรถลดกระจกลงและถามว่าที่นี่มีหัวเด็กขายไหม จึงตอบไปว่ามีแต่หัวหมา ชายทั้ง 2 คนจึงลงมาและทำท่าวิ่งไล่และจับตัว ซึ่งระหว่างนั้นได้มีรถกระบะขับมาพอดี ชายทั้ง2 คนจึงได้รีบขึ้นรถขับออกไป จากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถคันดังกล่าว
พบว่ามี น.ส.อรณิชา หอมทวนลม เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงได้ติดต่อไปที่ นายสุชล คูสุขเจริญ สามีของ น.ส.อรณิชา ก็ได้รับการเปิดเผยว่า ตนและแฟนสาวทำธุรกิจรถตู้ทึบ ส่งของเล่นและขนมตามร้านค้าใน จ.สระบุรี และจ.นครราชสีมา โดยรถยนต์ตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน ผข 4054 สุพรรณบุรี มี นายณัฐวุฒิ ล้ำเลิศ เป็นผู้ขับขี่ และมี น.ส.แพรชมพู ชาวเนื้อดี กับ นายสพล แซ่ตึ้ง เป็นเด็กรถ ซึ่งตามภาพ กล้องวงจรปิดเมื่อวาน (26 เม.ย.) นายณัฐวุฒิ ได้ขับมาส่งขนม และเก็บเงินค่าของที่ร้านค้าบริเวณดังกล่าว โดยจะมาที่ร้านทุกเดือน และได้พูดหยอกล้อเล่นกับเด็กที่อยู่บริเวณดังกล่าว และไม่มีเจตนาจะอุ้มเด็กตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบ ทราบว่า ร้านค้าบริเวณดังกล่าวคือร้านของป้าน้อย จึงได้ร่วมกันไปตรวจสอบ พบนางอังรักคณา แก้วบัวภาร เจ้าของร้าน แจ้งว่าเมื่อวาน (26 เม.ย.) นายณัฐวุฒิ ได้มาเก็บเงินค่าของที่ร้านจริง และได้หยอกล้อเล่นกับกลุ่มเด็กๆ ที่อยู่บริเวณร้านค้า
ล่าสุดวันนี้ทางด้านนายสุชล คูสุขเจริญ และน.ส.อรณิชา หอมทวนลม ผู้ครอบครองรถกระบะตู้ทึบได้พาตัวนายณัฐวุฒิ(บอล) ล้ำเลิศ อายุ 19 ปีเป็นผู้ขับขี่ และมี น.ส.แพรชมพู(มิ้ง) ชาวเนื้อดี อายุ 37 ปี กับ นายสุพล(กัน) แซ่ตึ้ง อายุ 15 ปี เป็นเด็กรถ เข้าพบ พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน ผกก.สภ.เมืองสระบุรี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในกรณีที่มีกระแสสังคมกล่าหาว่าพวกตนเองเป็นแก็งค์ลักพาตัวเด็ก และขอโทษต่อสังคม จากนั้นเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน ผกก.สภ.เมืองสระบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเมืองสระบุรี และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กสระบุรี เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้พาตัวผู้ก่อเหตุเข้าพบพ่อ แม่ และผู้ปกครอง ของเด็ก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และร่วมกันขอโทษ ที่ได้กระทำลงไป โดยที่รู้เท่าไม่ถึงการ ที่จะเกิดเหตุการณ์ใหญ่โตขึ้น ซึ่งในขณะที่ชี้แจงกล่าวขอโทษโดย มีผู้กำกับเมืองสระบุรีเป็นตัวกลางในการประสานทางผู้ปกครองของเด็กแสดงท่าทีที่ไม่พอใจในการกระทำของผู้ก่อเหตุ จะมีในบางช่วงจังหวะที่มีการพูดจากันรุนแรงบ้าง แต่ก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยทางผู้ปกครองของเด็กก็ยอมรับในการขอโทษ แต่ในเรื่องของคดีก็จะดำเนินการไปตามกฏหมาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กก็ได้ทำการตรวจสอบ และจะเข้าทำการช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น
ทางด้านนายสัญญา สารสี อายุ 30 ปี ผู้ปกครองน้องเนิส เผยว่า โดยส่วนตัวแล้วตนเองยอมรับคำขอโทษ แต่ในเรื่องของคดีนั้น จะขอปรึกษากันก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะคำขอโทษอย่างเดียวมันจะเกินไปไหม เพราะว่าลูกของตนเอง ก็มีร่องรอยบาดเจ็บ ซึ่งตนเอง ซึ่งตนเองคิดว่าเขาทำรุนแรงเกินไป และในส่วนตัวแล้วตนเองรู้สึกสบายใจขึ้นมากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามเรื่องให้ได้เร็วที่สุด ตอนนี้ไม่รู้สึกกังวลใจไดๆ ส่วนเด็กๆยังอยู่ในอาการที่หวาดผวาอยู่
ทางด้านนางสาวพัชชา ตาเสือ แม่น้องเฟิร์ต เผยว่า ตนเองยอมรับคำกล่าวขอโทษของผู้ก่อเหตุ ในส่วนเรื่องคดี ก็จะขอปรึกษากันดูก่อน ซึ่งคำขอโทษที่เขาแสดงออกมาเป็นคำขอโทษที่เต็มใจทำจากใจจริงๆ และไม่ทำให้เขาเดือดร้อน เหมือนที่มีกระแสโซเชียลลงมาว่าทางเราทำให้เขาได้รับความเดือดร้อนที่ทางเราไปโพสต์ตามหารถของเขา
จากนั้นทางพ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ได้เชิญผู้ก่อเหตุ และทางผู้ปกครองของเด็กเข้ามาตกลงเจรจากันยัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อหาข้อยุติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผลการเจรจาทั้งสองฝ่ายยอมรับคำกล่าวขอโทษและจะไม่มีการดำเนินคดีกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.สระบุรี รายงาน