พ.ต.ท.เก๊ลองของ อ้างเป็นหลาน เรวัช หลอกสาวขอแต่งงาน สูญเกือบแสน

วันที่ 25 เม.ย.68 น.ส.แพท (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ได้ขอความช่วยเหลือกับนายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา ตัวแทนเพจกล้าที่จะกล้า หลังตกเป็นเหยื่อถูกนายสุวิทย์ กลิ่นเกษร อายุ 51 ปี อ้างตัวเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท.สังกัดภูธรภาค 7 ดูแลงานด้านปราบปรามยาเสพติด และยังเป็นหลานของนายพลคนดัง พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด ก่อนใช้อุบายหลอกให้รักและคบหาเป็นแฟนกัน จากนั้นขอยืมเงินประมาณ 1 แสนบาท ก่อนที่เพื่อนของ น.ส.แพท จะมาจับโป๊ะได้ว่านายสุวิทย์ ไม่ได้เป็นตำรวจจริงและไม่ได้เป็นหลานของ พล.ต.ท.เรวัช ตามที่กล่าวอ้าง จึงได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ แต่กลับถูกผู้ต้องหานำป้ายข้อความไปแขวนไว้ที่รั้วประตูบ้านพักเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิต จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือเพจกล้าที่จะก้าว

พ.ต.ท.เก๊ลองของ อ้างเป็นหลาน เรวัช หลอกสาวขอแต่งงาน สูญเกือบแสน

น.ส.แพท เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.67 ระหว่างที่ตนกำลังไลฟ์ในติ๊กต๊อก ชายที่อ้างตัวซึ่งใช้ชื่อโปรไฟล์ในติ๊กต๊อกว่า สุวิทย์ กลิ่นเกษร ทักข้อความเข้ามาหาตน จากนั้นนายสุวิทย์ได้แนะนำตัวว่าเขาเป็นหลานของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร นายพลมือปราบคนดัง โดยอ้างว่า พล.ต.ท.เรวัช เลี้ยงดูมาพร้อมกับลูกชายทั้ง 5 คนของเขา ตนซึ่งเป็น FC ของ พล.ต.ท.เรวัชอยู่แล้ว จึงได้ถามนายสุวิทย์ว่าเป็นหลานของ พล.ต.ท.เรวัช จริงหรือไม่ ซึ่งทางผู้ต้องหาก็ยืนยันหนักแน่นว่าเป็นหลานแท้ๆ และใช้นามสกุลเดียวกัน จึงได้ติดต่อกันอีกครั้งผ่านทางไลน์แล้วเริ่มมีการพูดคุยกันเรื่อยมาจนผ่านมาหนึ่งเดือน นายสุวิทย์ ได้ขอคบหาเป็นแฟน ซึ่งตนหลงเชื่อว่าเขาเป็นตำรวและยังเป็นหลานของ พล.ต.ท.เรวัช จริง จึงตัดสินใจคบหากัน

พ.ต.ท.เก๊ลองของ อ้างเป็นหลาน เรวัช หลอกสาวขอแต่งงาน สูญเกือบแสน

น.ส.แพท เผยอีกว่า หลังจากที่คบหากับนายสุวิทย์ ซึ่งอ้างว่าเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท.ทำงานด้านปราบปรามยาเสพติด ได้ใช้อุบายมาหลอกขอยืมเงินตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น โดยอ้างว่าจะนำเงินไปจ่ายค่าข้าว ค่าน้ำมัน ให้กับลูกน้อง เพื่อใช้ทำงานสืบหาเบาะแสยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และถ้าหาก อาเรวัชได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา ผบ.ตร.ได้งบค่าใช้จ่ายในการปราบปรามยาเสพติด จะเบิกมาคืนให้ ตนหลงเชื่อจึงทยอยโอนเงินให้ไป บางครั้งก็กดเป็นเงินสดออกมาให้เขา ตลอดเวลาที่คบหากันตั้งแต่เดือนธันวาคม จนถึงต้นเดือนมีนาคม นายสุวิทย์ จะชักชวนออกไปต่างจังหวัดตลอด โดยอ้างว่าจะไปทำงานสืบหาข่าวในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งระหว่างที่พักอยู่ด้วยกันที่ต่างจังหวัด นายสุวิทย์จะให้ตนรออยู่ที่ห้องพักแล้วก็จะอ้างว่าขอออกไปทำงานในพื้นที่ก่อน  จากนั้นก็หายตัวไปประมาณ 3-4 ชั่วโมงแล้วก็กลับมา โดยบอกกับตนว่าไปทำงานมาเรียบร้อยแล้ว ตนเคยขอให้นายสุวิทย์พาไปพบกับ พล.ต.ท.เรวัช ที่ตนเป็น FC อยู่ ก็จะถูกนายสุวิทย์บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดและอ้างว่าอาเรวัชงานยุ่ง ถ้าว่างก็จะพาไปเจอ ต่อมาประมาณเดือนมกราคม 68 นายสุวิทย์ได้ขอตนแต่งงาน โดยจะจัดงานแต่งงานที่ไร่ ณ กานดา ของ พล.ต.ท.เรวัช จังหวัดกาญจนบุรี และอ้างว่าอาเรวัชกับภรรยาจะเป็นคนดูแลเรื่องการจัดงานแต่งงานให้ทุกอย่าง ทำให้ตนหลงเชื่อนายสุวิทย์โดยสนิท ตนจึงพูดถึงเรื่องแหวนที่จะใช้ในงานแต่งงานวันที่ 10 พ.ค.68 ซึ่งนายสุวิทย์ก็อ้างว่างานยุ่ง ให้ตนไปดำเนินการหาแหวนแต่งงานเอง ปรากฎว่าใน

พ.ต.ท.เก๊ลองของ อ้างเป็นหลาน เรวัช หลอกสาวขอแต่งงาน สูญเกือบแสน

ระหว่างนี้ตนได้นำเรื่องการจัดงานแต่งงานไปปรึกษากับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เพื่อนจึงเอะใจ จากนั้นได้ทำการตรวจสอบเรื่องสถานที่จัดงานแต่งงานโดยเพื่อนสนิทได้ติดต่อไปที่ไร่องุ่นและได้รับคำยืนยันจากทางไร่ว่า ไม่มีการจัดงานแต่งงานที่ไร่องุ่นแต่อย่างใด และทางไร่ไม่เคยมีการจัดงานแต่งงานมาก่อน และได้ตรวจสอบรายชื่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าไม่มีชื่อตำรวจที่ชื่อ พ.ต.ท.สุวิทย์ กลิ่นเกษร กล่าวอ้าง จึงทำให้รู้ทราบความจริงว่าที่ผ่านมาถูกนายสุวิทย์หลอกและแอบอ้างตัวมาโดยตลอด จึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เพื่อดำเนินคดีกับนายสุวิทย์ ในข้อหาฉ้อโกงเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวนายสุวิทย์ได้ และนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรี นายสุวิทย์ได้ยื่นประกันตัวออกมาในวงเงิน 1 หมื่นบาท จากนั้นนายสุวิทย์ได้พยายามหาทางติดต่อกับตนทุกช่องทางเพื่อจะให้ตนยอมความและไม่เอาเรื่อง แต่ตนไม่ยอม จนกระทั้งวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมานายสุวิทย์ได้ขับรถ จยย.เข้ามาที่บ้านของตนในช่วงบ่าย แต่ตนไม่อยู่บ้าน นายสุวิทย์จึงเขียนข้อความในลักษณะขอโทษมาแขวนไว้ที่รั้วประตูบ้าน สร้างความหวาดกลัวให้กับตนเป็นอย่างมากเพราะนายสุวิทย์ได้บุกมาถึงบ้านที่อาศัยอยู่ ทั้งที่เพิ่งประกันตัวออกมาแต่ก็ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกันอีก จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุวิทย์อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจขอความช่วยเหลือกับทางเพจและผู้สื่อข่าว

ด้านนายบรูณ์ทิพัฒน์ เจริญลีฬหา ตัวแทนเพจกล้าที่จะกล้า กล่าวว่า จากพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุนอกจากจะแอบอ้างตัวเป็นตำรวจและเป็นหลานของ อดีต พล.ต.ท.คนดังแล้ว ยังมีพฤติกรรมคุกคามผู้เสียหายให้ได้รับความหวาดกลัว ทั้งที่เพิ่งจะประกันตัวในชั้นศาลออกมา หลังจากนี้ทางเพจกล้าที่จะก้าวจะประสานกับทางกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้เข้าโครงการคุ้มครองพยาน เนื่องจากทางผู้เสียหายพักอาศัยอยู่เพียงลำพัง ทำให้เกิดความหวาดกลัว

พ.ต.ท.เก๊ลองของ อ้างเป็นหลาน เรวัช หลอกสาวขอแต่งงาน สูญเกือบแสน

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัด นนทบุรี รายงาน

Leave a Comment