เศษกระจุกเส้นผมกระจาย หลังศึกแย่งจองคิวซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม300ใบ ขั้นไล่กระทืบตะลุมบอนยับหน้าห้างดัง หนุ่มรับจ้างจองคิวเจอเหตุรุมต่อหน้า งงต้องทำร้ายขนาดนี้ ตร.เจรจาให้ยุติขายวันนี้
จากคลิปเหตุการณ์ที่เพจผู้บริโภค แชร์ภาพเหตุการณ์ชายหญิงนับสิบคนยกพวกตะลุมบอนไล่ทำร้ายร่างกายกันบริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต บางใหญ่ โดยระบุข้อความว่า “หน้าเซ็นทรัลเวสต์เกตตอนนี้กับเรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นกระเป๋า Merge”
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 21 มี.ค. 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ด้านหน้าศูนย์การค้าดังกล่าว ฝั่งประตูยูนิโคล ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ของทางศูนย์การค้า เจ้าหน้าที่รปภ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ กันบุคคลภายนอกออกจากบริเวณพื้นที่หน้าห้างศูนย์การค้า หลังเกิดเหตุการตะลุมบอนกันขึ้นในกลุ่มนักรับจ้างต่อแถวจองคิว
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบบริเวณด้านหน้าประตูยังมีกลุ่มคนที่เดินทางต่อแถวเพื่อรอคิวซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดัง นั่งจับกลุ่มอยู่ที่พื้นและทางเดินริมทางเท้าหน้าห้าง บางรายอาศัยนอนกับพื้นฟุตปาธและที่พื้นสนามหญ้าด้านหน้าศูนย์การค้า
นอกจากนี้ยังพบกระจุกเส้นผม 2 กระจุก ตกอยู่ที่พื้นด้วย คาดว่าเป็นเส้นผมของผู้หญิงที่เปิดศึกตะลุมบอนใส่กัน หลังเหตุกาณ์ความวุ่นวายสงบลง ทางเจ้าหน้าที่รปภ.และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้นักต่อแถวจองคิวออกนอกพื้นที่ เนื่องจากทางห้างและร้านจำหน่ายกระเป๋าดังกล่าว ได้ออกประกาศยกเลิกการขายกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังกล่าวทั้ง 300 ใบ ที่จะเปิดจำหน่ายในวันพรุ่งนี้แล้ว โดยผู้สื่อข่าวพบว่าระหว่างที่นักจองคิวทยอยกันเดินทางกลับ มีรถยนต์ขับเข้ามารับนักจองคิวหลายคนออกไปท่ามกลางความผิดหวัง
จากการสอบถามนายสุภิรัฐพงศ์ พงศ์ศักดิ์ศรี อายุ 27 ปี นักรับจ้างต่อแถวจองคิว เปิดเผยว่า ตนกับเพื่อนรับจ้างมาจองคิวเพื่อซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่งที่ห้างแห่งนี้ โดยกระเป๋ารุ่นนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดที่ลูกค้าอยากได้มาก จึงได้ว่าจ้างให้พวกตนมาต่อแถวซื้อกระเป๋า ซึ่งทางแบรนด์จะเปิดขายที่ห้างแห่งนี้เพียง 300 ใบต่อวัน และจำกัดสิทธิ์คนซื้อได้แค่ 2 ใบต่อคน ทำให้สามารถลงชื่อจองคิวได้เพียง 150 คิวเท่านั้น ซึ่งตนรับจ้างมาจองคิวซื้อกระเป๋าดังกล่าวด้วย ถ้าซื้อได้ 2 ใบจะได้เงินค่าจ้าง 800 บาท แต่ถ้าใบเดียวจะได้เงิน 700 บาท และถ้าไม่สามารถจองคิวซื้อกระเป๋าได้เลยก็จะได้ค่าเสียเวลา 400 บาท ซึ่งเท่ากับว่าพวกตนจะได้ค่าจ้างในการมาจองคิวแล้ว 400 บาทแน่นอน
นายสุภิรัฐพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกระเป๋าที่ลูกค้าจ้างตนมาจองนั้น ตนก็ไม่ทราบว่าลูกค้าต้องการเอาไปใช้หรือจะเอาไปขายต่อเพื่อเก็งกำไร ตอนที่เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันนั้นตนเห็นกับตาเพราะอยู่ในเหตุการณ์พอดี ทั้งสองฝ่ายมาทะเลาะกันใกล้กับจุดที่ตนยืนอยู่ โดยมีสาเหตุมาจากการแย่งคิวกันเพราะมีคนมารอเกินจำนวน 150 คิว จนเกิดการพูดจากระทบกระทั่งกัน แล้วกลายเป็นชี้หน้าด่าทอกัน จากนั้นจึงเกิดการลงมือลงไม้ไล่กระทืบกันตามคลิปที่ปรากฏ จนมีผู้ชายคนหนึ่งถูกทำร้ายลงไปนอนกับพื้น แม้จะมีรปภ.มาช่วยเข้าห้าม แต่มีเพียงคนเดียวคงไม่สามารถไปสู้กับเท้าคนเป็นสิบๆเท้าได้
โดยกลุ่มคนที่ก่อเหตุทะเลาะกันนั้นตนเห็นมีทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและคนแก่ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทางแบรนด์ได้ประกาศยุติการขายกระเป๋าออกไปอย่างไม่มีกำหนดในวันพรุ่งนี้ ทำให้ตนกับเพื่อนต้องเดินทางกลับ ส่วนที่เห็นว่ายังมีคนปักหลักรออยู่นั้น เขาอาจจะยังไม่เชื่อประกาศที่ออกมา คิดว่าเป็นข่าวโคมลอยเพื่อให้คนกลับ สำหรับกระเป๋าแบรนด์นี้ตนไม่รู้จักมาก่อนเพิ่งเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรก ซึ่งตนก็ยังงงๆอยู่ว่าแค่กระเป๋าสองใบ ราคาไม่ถึง 2,000 บาท ทำไมต้องมาทำร้ายกันไล่กระทืบกันเหมือนผักปลาแบบนี้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางใหญ่ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทางร้านที่จำหน่ายกระเป๋ายี่ห้อดังกล่าวได้ลงประกาศในโซเชียลว่าจะมีการเปิดขายกระเป๋าแบรนด์ดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ที่ห้างแห่งนี้เพียง 300 ใบ ทำให้มีกลุ่มคนที่สนใจมารอต่อคิวซื้อ ทางร้านจึงได้ตั้งโต๊ะแจกบัตรคิวให้กับผู้ที่เดินทางมาจองคิวซื้อ ซึ่งจะเปิดขายเป็นวันแรกในวันพรุ่งนี้ตามเวลาที่ห้างเปิดให้บริการในเวลา 10.00 น.
โดยทางร้านกำหนดให้ซื้อได้แค่คนละ 2 ใบต่อคิว แต่เนื่องจากจำนวนคนที่มารอจองคิวมีมากกว่าจำนวนคิว จึงทำให้เกิดมีการแย่งคิวและมีปากเสียงกระทบกระทั่งกัน จนลงมือทำร้ายกัน ซึ่งหลังจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่ากลุ่มที่ทะเลาะวิวาทกันได้แยกย้ายออกจากที่เกิดเหตุไปแล้ว และยังไม่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเดินทางมาเข้าแจ้งความ
เบื้องต้นเพจแบรนด์กระเป๋าดังกล่าวได้ประกาศยุติการเปิดขายสินค้า ในวันที่ 22 มีนาคม 2568 โดยไม่มีกำหนดเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เจรจากับทางศูนย์การค้าดังกล่าวให้ยุติการจำหน่ายกระเป๋าดังกล่าวในวันที่ 22 มี.ค. เช่นกัน