เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้พาน้องน้ำอ้อย (นามสมมุติ) เด็กสาววัย 16 ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเอาผิดตามกฎหมาย กับอาเขย และอาสาว ที่กระทำชำเราและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยสภาพตัวเด็กที่พบเห็นได้มีรอยฟกช้ำ และรอยขีดข่วนที่บริเวณใบหน้าและลำตัว มีใบหน้าบวมปูด อยู่ในอาการหวาดระแวงตกใจ
พ.ต.อ.ไพทูล พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และสหวิชาชีพ เข้าร่วมสอบสวนข้อเท็จจริงกับเด็กผู้ถูกกระทำและญาติที่ถูกกล่าวหา โดยทางตำรวจยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และไม่ลำบากใจหากมีการกระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐาน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอย่างละเอียด เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน ซึ่งการกระทำชำเราเด็กไม่เกิน 18 ปี นั้นมีความผิดตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าเด็กจะยอมหรือไม่ก็ตาม สอดใส่หรือไม่ได้สอดใส่ก็เป็นอนาจาร ส่วนเด็กจะให้การพาดพิงใครบ้าง ทางตำรวจจะต้องเรียกมาสอบปากคำ หากมีการกระทำผิดจริงก็จะแจ้งข้อกล่าวหา แต่ถ้าหากตำรวจเรียกแล้วไม่มาก็จะออกหมายจับ
เบื้องต้น เด็ก ให้การว่า ได้พักอาศัยอยู่กับญาติซึ่งเป็นอาแล้วถูกกระทำอนาจารและถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้น จึงได้หนีออกจากบ้านเพื่อมาพบตำรวจ ซึ่งจากการสอบถามผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่พามาแจ้งความบอกว่าเด็กได้หนีออกมาจากบ้านมานั่งร้องไห้อยู่ที่วัด พระที่ออกมาเดินบิณฑบาตพบเห็น จึงได้แจ้งให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพามาแจ้งความ
ส่วนผู้ก่อเหตุน่าจะมี 2 – 3 คน ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปจำนวน เนื่องจาก เด็กแจ้งว่านอกจากถูกอาเขยอนาจารข่มขืนกระทำชำเราแล้ว ยังถูกบุคคลในสถานที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสทางสังคมกระทำชำเราด้วย โดยถ้าหากเด็กแจ้งข้อความเท็จ ก็จะมีความผิดทางกฎหมายเช่นกัน ขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะได้นำพาตัวเด็กไปดูแลคุ้มครองที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และดำเนินการหาแนวทางช่วยเหลือในลำดับต่อไป
ด้าน น.ส.น้ำฝน (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นอาสาวแท้ ๆ ของเด็ก 16 ปี เปิดเผยว่า อาเขยซึ่งเป็นสามีของตนอายุ 44 ปี ได้ไปแอบมีอะไรกันกับหลานของตน ซึ่งเป็นลูกของพี่ชายที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่อายุ 4 ปี เนื่องจาก พ่อแม่ของเด็กแยกทางกัน ตนเคยบอกว่าอยากได้อะไรจะซื้อหาให้ แต่ขออย่างเดียวว่าอย่ามายุ่งกับอาเขยสามีของตน (หลานเขยคุยกับเพื่อนของหลานว่าแอบชอบ-แอบรักอาเขย) ซึ่งหลานก็รับปาก
แต่ตนก็จับได้ถึง 2 ครั้ง จึงได้บันดาลโทสะ ลงมือทุบตีแต่หลานก็สู้ตนกลับ และตนก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ส่วนหลานที่บาดเจ็บหลายแห่ง ไม่รู้ว่าไปโดนไปกระแทกกับอะไรบ้าง ตนเลี้ยงหลานมาไม่เคยตี นี่เป็นครั้งแรกเนื่องจากโมโห ยอมรับว่า เรื่องเหล่านี้ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง และได้ตีทั้งหลานสาวและอาเขยทั้งสองคนเช่นกัน