เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน , แพทย์เวร , และกู้ภัย ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดพบศพดีเจเตเต้ ซึ่งการเดินทางค่อนข้างยากลำบาก ต้องใช้รถกระบะยกสูง เนื่องจากก่อนหน้านี้ช่วง 2 – 3 วันที่ผ่านมา ในพื้นที่เกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้ถนนเป็นดินโคลน ซึ่งต้องขับรถเข้าไปในป่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง โดยจุดเกิดเหตุรายล้อมไปด้วยป่า อยู่ห่างไกลจากชุมชน เป็นสถานที่เลี้ยงวัว และหาของป่าของชาวบ้าน
สำหรับสภาพศพของผู้เสียชีวิต ถูกอำพรางไว้ในพงหญ้า สภาพนอนคว่ำหน้า มีเชือกมัดมือไพล่หลัง การเเต่งกาย เสื้อยืดสีดำ , กางเกงขายาวสีดำ , รองเท้าผ้าใบสีขาว บริเวณศีรษะเหนือขมับ พบรูกระสุนปืน 2 รู สภาพศพเริ่มเน่าเปื่อย เเละส่งกลิ่นเเรง โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพิสูจน์ศพเบื้องต้น พร้อมทั้งค้นหาวัตถุพยานจากบริเวณรอบ ๆ ที่เกิดเหตุ
จากนั้นพอเคลื่อนร่างออกมาที่ปากทางเข้าแล้ว ได้นำศพขึ้นรถกู้ภัย พ่อของเตเต้ จุดธูปบอก กลับบ้านกันนะลูก ได้กลับบ้านนะลูก ถึงเวลาแล้ว อยู่นี่นานแล้วลูก กลับบ้านได้แล้วลูก” จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งร่างของผู้เสียชีวิต ไปชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
ขณะที่ภรรยาของดีเจเตเต้ เดินทางมาที่เกิดเหตุ เผยว่า ส่วนตัวเคยเจอนางสาวน้ำก่อนหน้านี้แล้ว ก็ปกติดี น้ำไม่เคยแสดงท่าทางหึงหวง ซึ่งตนเองก็ทราบจากเต้ ว่าน้ำเคยจ้างงานเต้ไปเอนเตอร์เทนฯ ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ผ่านมาน้ำจ้างเต้ไปบ่อยไหม แต่ตนเคยเตือนเต้แล้วว่าอย่าไปยุ่งอะไรกับน้ำนะ สามีเขาไม่ธรรมดา แต่ตนไม่รู้ว่าสามีน้ำเป็นใคร เพียงแต่ได้ยินคนอื่นพูดเตือนมา ซึ่งเต้บอกว่าไม่มีอะไรหรอก แค่ไปทำงานไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรเกินเลย ส่วนเรื่องการรับงานของเต้ ที่ผ่านมาตนเองก็จะมีแค่ถามว่า ลูกค้าที่จ้างไปเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็แค่นั้น ไม่เคยไดัถามเช็กว่าเป็นใครยังไง
ซึ่งเหตุครั้งนี้ถ้าบอกว่าเต้กับน้ำมีความสัมพันธ์กัน ตนก็ไม่รู้มาก่อน แต่ถ้าเรื่องแบบนี้ทำไมไม่เตือนกันก่อน ทำแบบนีัมันแรงไป ซึ่งตนกลัวเรื่องเงียบ อยากให้ตำรวจเร่งไล่ล่าคนร้ายให้ครบ เพราะพฤติกรรมดูแล้วเหมือนวางแผนไว้หมด
