วันอังคารที่ 13 พ.ค. 68 ที่ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ขยายผลรวบหนุ่มใหญ่ ตั้งกลุ่มเทเลแกรมปล่อยคลิปอนาจารเด็ก
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 ส.ค.67 กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. หรือ TICAC ได้ทำการจับกุมนายไกรสร ในความผิดเกี่ยวกับการเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร ต่อมาได้สืบสวนขยายผล จนพบข้อมูลการเข้ากลุ่มเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กบนแอปพลิเคชัน Line Band ซึ่งภายในกลุ่มมีการโพสต์สื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมาก และมีลิงก์นำไปยังกลุ่ม Telegram ที่มีการโพสต์คลิปสื่อลามกอนาจารเด็กจำนวนมากเช่นกัน โดยผลจากการสืบสวน เชื่อได้ว่า นายศาล อายุ 46 ปี เป็นผู้ใช้งานบัญชีที่ใช้เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.ตอท. จึงได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรนนท์แมนมงคล ผกก.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. นำกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นต่อศาล
โดยล่าสุด พ.ต.ท.ธนพงศ์ธัช อ่อนชูเหมรัต, พ.ต.ท.เขมอธิษฐ์ ทองคำ และ พ.ต.ท.หญิง ณิธิชา กลิ่นทอง สว.กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ร่วมกับมูลนิธิ OUR Rescue ได้ร่วมนำกำลังพร้อม หมายค้นศาลจังหวัดเดชอุดม ที่ ค.12/2568 ลงวันที่ 6 พ.ค.68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี
ผลการตรวจค้น พบนายศาล อายุ 46 ปี พร้อมของกลางจำนวน 1 รายการ เป็นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งภายในมีข้อมูลหลักฐานว่านายศาล เป็นผู้ดูแลกลุ่มลับในแอปพลิเคชันเทเลแกรม และมีพฤติการณ์เผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก ให้สมาชิกในกลุ่มดังกล่าว โดยไม่ต้องเสียเงินค่าเข้ากลุ่ม โดยสื่อลามกเด็กที่ใช้เผยแพร่นั้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ซื้อต่อมาจากบุคคลอื่นอีกทอดหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครอง และส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศ มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน
