เพจ
สมาคมสื่อสารมวลชน ข่าว วิทยุและโทร
ทัศน์ ได้เผยข้อความระบุว่า 12 พฤษภาคม 2568 ที่จ.นครศรีธรรมราช แม่เฒ่าวัย 89 สวมสร้อยคอทองคำ 5 บาท ซ้อนท้ายวินไปกดเงินก่อนหายตัวไป 4 วัน ก่อนพบเป็นศพถูกฆ่ายัดกระสอบ . วงจรปิดวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เวลา 10.19 น. จับภาพยายนิล อายุ 89 ปี ซ้อนท้ายจักรยานยนต์รับจ้าง ของ นายเจริญ ศรีจำรัส หรือ นายเตี้ย อายุ 55 ปี ออกจากหมู่บ้านนรเศรษฐ์ ถนนพัฒนาการคูขวาง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อไปกดเงินผู้สูงอายุ
ซึ่งนี่เป็นภาพสุดท้าย ก่อนที่ ยายนิล จะหายตัวไป พร้อมกับเงินสดประมาณ 1 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเครื่องเลี่ยมทอง และแหวนทองคำ หนัก 2 สลึง 1 วง มูลค่ากว่า 2 แสนกว่าบาท . ลูกชายของยายนิล จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตำรวจจึงเรียกนายเตี้ยมาสอบปากคำ เขาให้ข้อมูลว่า วันนั้น ไปส่ง ยายนิล ที่ห้างโลตัส แล้ว ยายนิล บอกว่า เดี๋ยวลูกจะรับกลับบ้านเอง
แต่เมื่อตรวจสอบวงจรปิดที่ห้าง พบว่า นายเตี้ยโกหกโดยภาพวงจรปิด พบว่า ยายนิล นั่งรถของ นายเตี้ย ออกจากห้าง ไปซื้อของ ที่หมู่บ้านการเคหะ ก่อนขับเข้าถนนสิรินครอุทิศก่อนหายตัวไป วันนี้เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบ บริเวณริมถนนเทิดพระเกียรติ ต.ปากนคร อ.เมืองนครศรีธรรมราช จนพบร่องรอยการลากของหนักลงไปในทุ่ง ห่างจากถนนประมาณ 50 เมตร
เมื่อเดินตามลงไปพบกระสอบสีขาวมีกลิ่นเหม็นเน่าโชย เมื่อเปิดกระสอบจึงศพของ ยายนิล ถูกฆ่ารัดคอด้วยเชือกฟางสีฟ้า สภาพศพอืด มีหนอนเป็นตัวขนาด 3 มิลลิเมตรเต็มร่าง เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน เนื่องจากขาดอากาศหายใจ ส่วนทรัพย์สินที่ติดตัว ทั้งสร้อยคอ แหวน เงินสด หายทั้งหมด
ส่วนนายเตี้ย ก็หายตัวไปแล้ว ซึ่งนายเตี้ย ขับ จยย.รับจ้างอยู่ที่คิวหน้าห้างโลตัส มีพฤติกรรมชอบดื่มเหล้า และ ชอบเล่นพนันไฮโล ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างล่าตัว นายเตี้ย คาดว่าจะหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
ขณะที่ลูกของยายนิล ที่มาดูเหตุการณ์ ร้องไห้เสียใจ พร้อมโวยวายว่า นายเตี้ย ขับวินรับส่ง ยายนิล มา 5 ปีแล้ว เมื่อเช้านี้ก็มาหาจุดนี้แล้วครั้งนึง แต่ไม่พบ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตามมาพบเป็นศพ ก็รู้สึกเสียใจมาก พยายามเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวแม่ตั้งแต่วันแจ้งความ แต่ไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆ ที่รู้ว่าหายไปขณะนั่งรถของ นายเตี้ย แต่ไม่ยอมจับกุม อ้างว่าไม่มีหลักฐาน จนเขาหนีไปแล้ว ล่าสุดพื้นที่ไปบ้านของยายนิล พบว่า ญาติของยายได้เดินทางมาที่บ้านจำนวนมาก ท่ามกลางความโศกเศร้า
ลูกสาวของยายนิล เล่าว่า แม่ใช้บริการ นายเตี้ย มา 5 ปี วันเกิดเหตุลูกชาย ยายนิล ไม่อยู่ ยายนิล เลยโทรเรียก นายเตี้ย ให้มารับ ไปส่งที่ห้างโลตัส ที่อยู่ห่างจากหมู่บ้าน 300 เมตรเพื่อไปกดเงินเบี้ยคนชรา ก่อนจะหายตัวไป . ซึ่งลูกหลานไปหาเบาะแสจากวงจรปิด พบว่า นายเตี้ย ขี่รถมารับ ยายนิล ในหมู่บ้านช่วง 10:18 น. จากนั้น 1 นาที นายเตี้ย ก็ได้พายายนิล ซ้อนท้ายออกมาจากหมู่บ้าน . พอ ยายนิล ไปถึงที่ห้างก็ลงไปชั้นล่าง เพื่อไปทำธุระที่ร้านทอง จากนั้นก็ขึ้นไปกดเงิน ไม่ทราบจำนวน แล้วก็เดินออกมาเรียก นายเตี้ย ซึ่งอยู่ที่วินจักรยานยนต์หน้าห้าง พาไปซื้อแกงที่การเคหะ ซึ่งยายนิลไปซื้อแกงที่นั่นเป็นประจำ . แต่หลังจากที่ซื้อแกงเสร็จนายเตี้ย กลับไม่พาคุณยายมาส่งที่บ้าน ขี่รถเลยหมู่บ้านออกไปลูกหลานพยายามติดต่อก็ไม่สามารถติดต่อได้ . กระทั่งผ่านไป 1 คืน ก็ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ทุกคนก็มุ่งประเด็นไปยัง นายเตี้ย เพราะ เป็นคนมารับ ยายนิล ออกจากบ้านไป .
โดยช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา มีคนพบ นายเตี้ย ไปเล่นพนันชนไก่ ควักเงินออกมาจำนวนมาก รวมไปถึงวันก่อนลูกยายนิล พาตำรวจไปเจอตัว นายเตี้ย ซึ่งกำลังดื่มสุรา แต่นายเตี้ย ปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นอะไร . ลูกหลาน ยายนิล พยายามให้ตำรวจพาตัว นายเตี้ย ไปเค้นสอบปากคำ แต่ตำรวจแจ้งว่า ไม่มีพยานหลักฐาน ทำให้ตอนนี้ นายเตี้ย หนีไปอยู่นอกพื้นที่ คาดว่าหนีไปเกาะสมุยและภูเก็ต . อีกทั้งจากประวัติ นายเตี้ย ที่ผ่านมา พบว่า เคยฆ่าคนตายมาแล้ว บวกกับติดการพนันและติดสุรา
ส่วนตัวจึงเชื่อว่า นายเตี้ย น่าจะเป็นคนร้าย เพราะเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับยายนิล ซึ่งหาก นายเตี้ย อยากได้ทรัพย์สินของยายนิลจริงๆ ทำไมไม่ขอดีๆ คิดว่า ยายนิล น่าจะให้อยู่แล้ว เพราะยายนิลไม่มีเรี่ยวแรงที่ต่อสู้อยู่แล้ว เนื่องจากเพิ่งหายเป็นไข้หวัดใหญ่ได้ 3 วัน . ลูกสาวของยายนิล บอกอีกว่า ตลอดเวลา 4 วันที่ยายนิลหายตัวไป ลูกหลาน พากันตามหา ยายจากกล้องวงจรปิด รวมไปถึงมีญาติไปดูหมอดู ที่อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช บอกว่า ยายนิล จะอยู่ด้านล่าง คล้ายพื้นที่ทุ่งนา ซึ่งลูกหลานไปดู ก็ไม่พบ กระทั่งมาพบศพวันนี้