วันที่ 12 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร นำโดย นางสาวทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณด้านหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจุดทิ้งซากอาคารเเละ พัสดุของอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม ที่สูงประมาณ 6 เมตร ให้สื่อมวลชนได้เข้าเก็บภาพพร้อม สาธิต การทำงานของเจ้าหน้าที่และสุนัข K 9 เพื่อยืนยันว่าไม่มี ชิ้นส่วนหรือร่างของผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าวหลงเหลืออยู่แล้ว
นายภุชชพงศ์ สัญญโชติ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการ ดับเพลิงและกู้ภัย 3 สำนักป้องกับและ บรรเทาสาธารณะ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะพบผู้รอดชีวิตภายในอาคารที่ถล่มลงมาในลักษณะแพนเค้กซีเมนต์ การนำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากอาการ จึงเป็นความท้าทายที่ยากมากความสูงในวันเกิดเหตุ 137 เมตร ลดลงเหลือ 26.8 เมตร ลดลงไป 100 กว่าเมตร เป็นงานที่ยากมากในการค้นหาเราพยายามเต็มที่แล้วเราก็พบร่างเยอะที่สุดเท่าที่ทำได้ คือ ร่าง 89 ร่าง ยังคงสูญหายอีก 7 รายซึ่งเป็นเรื่องของทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะต้องทำการตรวจสอบชิ้นเนื้อและนำกระดูกไปตรวจหาดีเอ็นเอ เพราะลายนิ้วมือไม่สามารถดำเนินได้ ถ้าหากเจอฟันก็จะสามารถตรวจหาดีเอ็นเอได้แต่ก็เรื่องที่ยากมากเน้นหนักไปที่ทางดีเอ็นเอมากกว่า
เมื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากอาคารได้ก็จะมีการค้นวัสดุต่างๆ ที่นำมาทิ้งภายในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จากเดิมที่เป็นพื้นที่ราบจุดสูงสุดที่กองซาดเอามาทิ้งไว้มีความสูงอยู่ที่ประมาณ 8 เมตร เราจะพยามลดทอนความสูงให้ได้เหลือประมาณ 6 เมตร เพราะอาจเกิดการสไลด์ตัวลงมา ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพื้นที่โดยรอบ
เศษซากต่าง ๆ ที่อยู่ในไซด์งานนั้นเหลือไม่มากแล้ว เมื่อนำเศษวัสดุต่าง ๆ มาไว้ จะตรวจสอบโดยสุนัข k9 จะเข้ามาตรวจสอบทุกเช้า-เย็น เพื่อทำการตรวจสอบหาชิ้นส่วนมนุษย์ วันนี้จะให้สื่อมวลชนมาดูพื้นที่และการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยถ้าฝนตกก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้เนื่องจากเราอยู่ในที่โล่ง มีโอกาสที่ฟ้าผ่าสูง เพราะเราไม่ได้เก็บเอาวัสดุที่เป็นสื่อนำวัสดุนำไฟฟ้าออก
นางสาวทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้ได้เป็นการปฏิบัติการที่ทำตามปกติที่จะให้สุนัขk9 เข้ามาค้นหาในช่วงเช้าและเย็น โดยในวันพรุ่งนี้จะเป็นการค้นหา เป็นครั้งสุดท้ายในเวลา 05.00 น. ในการค้นหาก็เพื่อค้นหาชิ้นส่วนมนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์ติดค้างอยู่ภายในกองซาก เบื้องต้นได้มีการล้อมรั้วไว้เหมือนเดิม เพราะข้างในยังเป็นพื้นที่ต้องห้าม และมีวัสดุอุปกรณ์ที่ไม่สามารถให้ใครนำออกไปได้ และจะมีการนำกล้องต่างๆมาติดไว้รอบๆ เหมือนเดิม ซึ่งที่ผ่านมาครบชิ้นส่วนมนุษย์เพียงหลัก 10 ชิ้นเท่านั้น
ซึ่งในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ทางสำนักงานเขตจตุจักรจะคืนพื้นที่ ให้กับทาง สตง. และคาดว่าทางตำรวจจะเข้ามาอายัดพื้นที่เพื่อดำเนินการต่อในเรื่องของคดีความทันทีเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง ซึ่งในวันพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมกันกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อหาแนวทางต่อไป
ส่วนค่าใช้จ่ายในการกู้ภัยทั้งหมดนั้นยังไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขทั้งหมดได้แต่ค่าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนอยู่ที่ประมาณ 176 ล้านบาท แต่ยังมีค่าน้ำมันต่างๆ ค่าซ่อมบำรุง เครื่องจักร ซึ่งนอกจากนี้บริษัทอิตาเลียนไทยยังรับผิดชอบในส่วนของค่าน้ำมันและค่าคนงานที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ ส่วนกทม. เองยังไม่ได้มีการจ่ายเงินจ้างใครมาในเหตุการณ์นี้ เพราะส่วนใหญ่จะมีคนอาสาสมัครมาช่วยเราจึงอยากฝากขอบคุณผ่านสื่อมวลชนไป
ซึ่งขณะนี้ในส่วนของผู้สูญหายเราสามารถประกอบร่างผู้ที่สูญหายจากชิ้นส่วนมนุษย์ได้ 89 ร่าง แต่ยังคงเหลือชิ้นส่วนอีกประมาณ 296 ชิ้นส่วนซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นในส่วนของ โรงพยาบาลตำรวจสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ที่จะดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะมีการ ทำบุญตักบาตรโดยมีการ นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 109 รูป มาสวดพระพุทธมนต์เพื่ออุทิศให้กับผู้เสียชีวิต และสิริมงคลให้กับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้วย
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน