จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “ขออนุญาติเเชร์ประกาศตามหาน้องค่ะ น้องชื่อบีด้า สัญชาติเมียนมาร์ (พม่า) ชื่อจริงน้องชื่อ ”บีด้า บ้านเก่ง“ เพศหญิง อายุประมาณ 14 ปี สวมชุดเเดง กางเกงน้ำเงินฟ้า หายตัวไปตั้งเเต่วันศุกร์ที่ 21 มี.ค. 68 เวลาประมาณ 6 โมงเช้า ท่านไหนพบเห็นช่วยเเจ้งเบาะเเสพาน้องกลับบ้านทีนะคะ พ่อเเม่น้องเป็นห่วงเเทบจะขาดใจ วอนอยากให้คนพบเจอน้องช่วยพาน้องกลับบ้าน น้องอาศัยอยู่ตึกบ้านพักตลาดท่าอิฐ จ.นนทบุรี ตอนนี้พ่อเเม่น้องได้เเจ้งความเด็กหายเเล้ว ท่านใดพบเห็นติดต่อมาที่เบอร์ 099-104-9995 หรือเบอร์พ่อเเม่น้อง 080-465-0305 วอนผู้พบเห็นช่วยเหลือด้วยนะคะ ฝากเเชร์โพสต์นี้ด้วยนะ เผื่อมีคนพบเจอน้องบีด้าค่ะ วอนพาน้องกลับติดต่อมาได้เฟสนี้ได้เลย ขอขอบคุณทุกๆท่านค่ะ”
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 68 ที่สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง พร้อมด้วยนางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ได้เชิญตัวพ่อกับแม่ ด.ญ.บีดา อายุ 14 ปี มาพบ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับตัวด.ญ.บีดา มาจากสน.ดอนเมือง กทม. เนื่องจากโชเฟอร์แท็กซี่ ได้พบตัว ด.ญ.บีดา ไปของานทำและได้พาไปทำงานรับจ้างรีดผ้าซักผ้าที่บ้าน โดยให้ค่าจ้างวันละ 200 บาท หลังจากได้เห็นภาพข่าวจึงได้พาตัวด.ญ.บีดา ไปส่งไว้ที่สภ.ดอนเมือง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจสภ.บางศรีเมือง จึงได้ไปรับตัวกลับมาและประสานพ่อกับแม่ เพื่อให้มารับ แต่ด.ญ.บีดา ยืนยันว่าจะไม่กลับไปอยู่กับพ่อแม่และขอไปอยู่ที่บ้านพักเด็กปากเกร็ด เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ให้เข้ามาเพื่อ พูดคุยกับด.ญ.บีดา และพ่อแม่ เพื่อหาข้อสรุป
จากการสอบถาม น้องฟ้า (เสื้อแดง) อายุ 34 ปี กล่าวว่า วันที่โพสต์เพราะเป็นห่วงน้อง รู้จักน้องมาหลายปีแล้ว น้องมาเล่าให้ฟังหลายเรื่อง เรื่องของการน้อยใจพ่อแม่ ตอนนี้เจอน้องแบบปลอดภัยก็ดีใจมากแล้ว และดีใจที่น้องไปอยู่กับพม. จะได้มีที่เรียนและสภาพจิตใจน่าจะดีขึ้น ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยกลับมาบ้าน
นางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เคสนี้ไม่มีอะไรมากตามประสาเด็กวัยรุ่น ที่รู้สึกน้อยใจครอบครัว อยากจะหาเงินทำงานเองเพื่อซื้อโทรศัพท์ แต่ว่าอายุยังน้อยยังไม่มีใครจ้าง ตอนที่น้องออกไป น้องไปเจอพลเมืองดีที่ให้งาน และให้เขากลับมาส่ง ส่วนตัวเด็กเองยังไม่พร้อมที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัว จะประสงค์ไปอยู่ที่บ้านพักเด็ก จากการสอบถามเด็กน้อยใจพ่อแม่ และคิดมากที่เรื่องของพ่อที่พูดว่าจะไปอยู่ที่ไหนก็ไป เด็กเลยตัดสินใจหนีออกจากบ้าน ส่วนตัวร่างกายน้องไม่ได้โดนทำร้ายร่างกาย ตอนนี้จะต้องดูเรื่องของสภาพของจิตใจเด็กว่าเป็นยังไงต่อ ตอนนี้ทำความเข้าใจพ่อกับแม่แล้วในเรื่องของกฎหมายและการดูแลเลี้ยงดู
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จ.นนทบุรี รายงาน