จับหนุ่มเปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวังได้งานบ่อน สุดท้ายโดนหลอก ไม่ได้เงิน ไม่ได้งาน ได้แต่คดีติดตัว

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เรืองวิทย์ ดวงจินดา สว.กก.1 บก.ป. ,ร.ต.อ.จักรภัทร สงรอด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป., กก.1 บก.ป.,จ.ส.ต.เจษฏา เหล่าภักดี ผบ.หมู่ กก.ตชด.34 รรท.ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.,จ.ส.ต.ทวีศักดิ์ เถาวนิช ผบ.หมู่ กก.ตชด.11 รรท. ผบ.หมู่.กก.1 บก.ป ร่วมกันจับกุม นายอณุกูณฯ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.318/2566 ลงวันที่ 24 มีนาคม 2566

จับหนุ่มเปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวังได้งานบ่อน สุดท้ายโดนหลอก ไม่ได้เงิน ไม่ได้งาน ได้แต่คดีติดตัว

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันทำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” สถานที่จับกุม ภายในซอยรามอินทรา 127 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงต้นปี 2565 นายอณุกูณฯ ได้รู้จักกับกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าทำงานที่บ่อนคาสิโนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (ปอยเปต) และได้ชักชวน นายอณุกูณฯ ซึ่งช่วงนั้นว่างงานและกำลังหางาน

จับหนุ่มเปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวังได้งานบ่อน สุดท้ายโดนหลอก ไม่ได้เงิน ไม่ได้งาน ได้แต่คดีติดตัว

นายอณุกูณฯ จึงสนใจอยากไปทำงานด้วย เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านของตน โดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้บอกว่าถ้าอยากไปทำงานจะต้องเปิดบัญชีธนาคารก่อนจำนวน 5 บัญชีและนำเอกสารข้อมูลส่วนตัวแนบมาด้วย หลังจากนั้นให้รอเขาอนุมัติแล้วจะมีคนโทรหาเพื่อเรียกไปทำงาน เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้บัญชีและข้อมูลของนายอณุกูณฯ แล้วก็หายไป นายอณุกูณฯ ก็รอสายโทรศัพท์ดังกล่าวนานหลายเดือนก็ยังไม่มีบุคคลใดติดต่อมาเพื่อเรียกตนไปทำงานเลย จนกระทั้งช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ได้มีหมายเรียกมายังบ้านตนแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าเป็นเอกสารปลอม หลังจากนั้นช่วงเดือน สิงหาคม ปี 2565 ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาและแสดงหมายจับ ฐานร่วมกันฉ้อโกง นำเข้าสู่ข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ซึ่งบัญชีที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นบัญชีที่ตนเคยเปิดเพื่อที่จะแลกไปทำงานเมื่อต้นปี นายอณุกูณฯจึงรู้ว่าตนนั้นโดนหลอกให้เปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากนั้นได้มีได้มีหมายจับออกมาเพิ่มอีกจำนวน 5 หมายจับ นายอณุกูณฯ ซึ่งหลังโดนจับในครั้งแรกก็รู้ว่ายังไงตนคงไม่ได้ไปทำงานที่ปอยเปตแล้ว จึงได้เข้ากรุงเทพเพื่อหางานอื่นทำ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายอณุกูณฯ ได้เข้ามารับจ้างเดินสายไฟกับญาติและพักอาศัยแฟลตเอื้ออาทร จึงได้ลงพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ลักษณะคล้ายตามตำหนิรูปพรรณ เดินอยู่บริเวณหน้าสถานที่ดังกล่าว (สถานที่จับกุม) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จับหนุ่มเปิดบัญชีให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หวังได้งานบ่อน สุดท้ายโดนหลอก ไม่ได้เงิน ไม่ได้งาน ได้แต่คดีติดตัว

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าตนได้เปิดบัญชีเพื่อแลกการได้ไปทำงานในคาสิโนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (ปอยเปต) เพราะได้ยินว่ารายได้ดีและไม่ไกลจากบ้านของตน แต่ไม่ทราบว่าบัญชีที่ตนเปิดจะถูกนำไปใช้เป็นบัญชีรับเงินให้แก่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เตือนภัย เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงผู้ที่เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 – 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน

Leave a Comment