หลังจากที่เมื่อวานนี้ รายการโหนกระแส ได้พูดคุยกับ ดร.เมย์ วาสนา อินทะแสง นักธุรกิจสาวชื่อดังได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อทวงคืนทรัพย์สินมูลค่า 62 ล้านบาท หลังจากพบว่าเจ้าของทรัพย์สินบางชิ้นที่เธอให้ยืมกับดาราสาวถูกนำไปจำนำและขายต่อ โดยเธอเผยว่าของที่ให้ยืมบางชิ้นมีมูลค่าทางจิตใจและมีคุณค่าอย่างยิ่ง ซึ่งเธอก็ยังไม่สามารถได้รับการคืนตามที่ตกลงกันไว้ หลังจากที่ได้พยายามติดต่อหลายครั้งและเคลียร์กับอีกฝ่าย อีกหนึ่งคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในเรื่องนี้ ก็คือยูทูบเบอร์หนุ่ม ซุง ศตาวิน นาคทองเพชร” คนที่ให้ ดิว อริสรา ยืมเงินช่วยเหลือในตอนที่ลำบาก ซึ่งเป็นคนที่ดิวไปบอกกับเมย์ว่า ต้องหาเงินมาคืนซุงให้ได้ตามกำหนด ไม่อย่างนั้นจะเดือดร้อน
รายการโหนกระแสวันนี้ ซุง มานั่งในโหนกระแสด้วยตัวเอง เพื่อชี้แจงเรื่องราวในมุมของตัวเอง หลังจากที่เมื่อวานนี้ เจ้าตัวออกมาอัดคลิประบาย ว่าให้ผู้หญิงคนหนึ่งยืมเงินไป แต่สุดท้ายตัวเองจะต้องเดือดร้อน เพราะจะต้องถูกออกหมายเรียกไปให้ปากคำในคดีที่มีการแจ้งความกันอยู่
ซุงเล่าว่า จุดเริ่มต้น ตนไม่ได้รู้จัก ดิว เป็นการส่วนตัว แต่มีอยู่วันหนึ่ง “พี่แทม” พี่ที่ตนเคารพนับถือ ติดต่อมาว่า มีเพื่อนผู้หญิงของเขาคนหนึ่งเดือดร้อน ต้องเอาเงินสดไปวางที่ห้าง จะขอยืมเงิน 20 ล้าน เพราะจะเอาผลิตภัณฑ์เข้าไปขายในห้าง เป็นเหตุผลทางธุรกิจ ถ้าไม่มีเงินตรงนี้เข้าไปวาง ธุรกิจก็อาจจะมีปัญหา พี่แทมมีเงินสดอยู่ 7.5 ล้าน ขาดอีก 12.5 ล้าน
ซุงเห็นว่าแทมเป็นพี่ที่เคยช่วยเหลือจนทำให้ตนประสบความสำเร็จ จึงยินดีที่จะช่วย โดยที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่ขอยืมคือ ดิว อริสรา แต่พอตกลงกันเรียบร้อย จึงค่อยถามว่าคนที่จะมายืมเงินคือใคร พอได้รู้ว่าเป็นดิวก็ตกใจ เพราะเห็นไลฟ์สไตล์ของพี่เขาแล้วไม่คิดว่าเขาจะเดือดร้อนเรื่องเงิน แต่อีกมุมก็เข้าใจในแง่ของธุรกิจ
วันที่ตกลงเอาเงินไปให้ พี่ดิวไม่ได้มา เป็นแม่ของพี่ดิวมาเอง ตอนแรกเขาเสนอว่า ยืม 20 ล้าน จะคืน 22 ล้านเป็นดอกเบี้ย แต่ตนมองว่า ส่วนต่าง 2 ล้านขอไม่รับ เพราะตั้งใจจะช่วยจริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะค้ากำไร ทางฝั่งพี่ดิวเอาต่างหูเพชรเม็ดใหญ่มาก ๆ เอามาวางค้ำประกันไว้ เขาบอกว่ามูลค่าประมาณ 20 ล้าน เห็นมีของมาวาง มีแคชเชียร์เช็คที่เซ็นชื่อวางไว้ มีพี่แทมเป็นคนรับประกัน ตนก็เลยวางใจ แต่เรื่องนี้ ซุงไม่กล้าบอกคนในครอบครัวเลยว่า เอาเงินสด 12 ล้านกว่าบาทไปให้ใครยืม
แต่ปรากฏว่าเรื่องมันมาพีกจุดแรก ตอนที่พี่แทมลองเอาเพชรให้เพื่อนที่เป็นนักตรวจสอบเพชรช่วยตรวจดู เขาบอกว่า ส่องไม่เจอบาร์โค้ดเพชร แล้วเอาไปให้ร้านเพชรต่าง ๆ ตรวจสอบดู เขาก็ลงความเห็นตรงกันว่า ไม่น่าจะใช่เพชรแท้ แต่ก็ไม่ได้มีร้านไหนคอนเฟิร์มว่าปลอม
เรื่องนี้ทำเอาซุงช็อก เครียด กินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดว่าจะทำยังไงดี กลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน