กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมจับกุม นายบุรพลฯ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1842/2567 ลงวันที่ 25 เมษายน 2567 ในความผิดฐาน “มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคล อื่นและโดยทุจริตหรือหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความ เสียหายแก่ประชาชน” สถานที่จับกุม หน้าบ้านบริเวณ ม.6 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการ ถูกแก๊ง Call Center โทรหลอกให้โอนเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท จึงได้ทำการสืบสวนและติดตามจับกุมผู้ต้องหาใน เครือข่ายนี้
โดยสามารถจับกุมได้ตั้งแต่ บัญชีม้า, คนจัดหาบัญชีม้า, พนักงานคอลเซ็นเตอร์, ล่ามแปลภาษา บอสชาวจีน และทลายเครือข่ายลักลอบพาบัญชีม้าข้ามแดน ที่บริเวณตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (ปฏิบัติการLockdown the Cat) จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้ส่งสายลับแฝงตัวเข้าไปในออฟฟิศที่ทำการฟอกเงินให้กับแก๊ง Call Center ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ทำให้สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาที่เป็นตัวการสำคัญในการฟอกเงินซึ่งอยู่ใน ออฟฟิศดังกล่าวได้เพิ่มเติม จนกระทั้งในช่วงปลายเดือน กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการไทยมีการปราบปรามและกดดันแก๊ง Call Center อย่างหนัก ทำให้ออฟฟิศดังกล่าวต้องปิดทำการชั่วคราว และผู้ต้องหารายนี้กลับเข้ามาฝั่งประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปจับกุมตัว
โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านบนดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้การว่า ไปทำงานเป็นพนักงานใน ออฟฟิศฟอกเงินให้แก๊ง Call Center บริเวณโซน 3 ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีบอสชาวจีนเป็นเจ้าของ โดยเป็นออฟฟิศฟอกเงินขนาดใหญ่ให้กับแก๊ง Call Center ที่หลอกลวงคนไทยทุกรูปแบบ กว่า 70 แก๊ง โดยจะได้ ส่วนแบ่งเป็นเงิน 8-12% โดยในแต่ละวันจะมีเงินเข้าประมาณ 30 ล้านบาท หรือเกือบ 1 ล้าน USDT นายบุรพลฯ เริ่มไปทำงานตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ถึง วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจะมีบัญชีม้า ชาวไทย เข้ามาที่ออฟฟิศทุกวัน วันละประมาณ 20 คน โดยมีนายหน้าชาวไทย เป็นคนติดต่อบัญชีม้าและพาข้ามแดน ผ่านช่องทางธรรมชาติ มาส่งให้กับนายหน้าชาวจีน
โดยบอสขาวจีน จะให้ค่าบัญชีม้า บัญชีละ 8,000 -12,000 บาท โดย นายบุรพลฯ ทำหน้าที่แปลภาษาให้บอสชาวจีน, เช็คแอปธนาคารที่บัญชีม้าเปิดมา, สแกนหน้าบัญชีม้าเพื่อ โอนเงิน, เปลี่ยนเงินจากเงินสดในบัญชีม้าเป็น เงินดิจิตอลสกุล USDT ผ่านแอปพลิเคชันคริปโตเคอเรนซี่ Bipange Bitkup, BipapseTE, และ Qrpix และโอนเงินดิจิตอลสกุล USDT เข้า Wallet ของบอสชาวจีน
จากนั้นบอสชาวจีน จะกระจายโอนส่วนแบ่งเป็น USDT เข้า Wallet ของแต่ละแก๊งตามยอดเงินที่แต่ละแก๊งหลอกลวงได้ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน