พ่อใจสลาย ลูกชายวัย 17 ปี ขี่รถ จยย. ชนขอบสะพานร่างกระเด็นตกถนนด้านล่าง ถูกชนซ้ำเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 6 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา ร.ต.อ .ณฐกร ดำรงธนวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะอิน รับแจ้งมีเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนแท่งแบริเออร์ขอบราวสะพานกลับรถ ตกลงไปพื้นถนนด้านล่างเสียชีวิต 1 คน เหตุเกิดบนถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพฯ หลักกิโลเมตรที่ 15 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์

ที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานกลับรถ พบรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดพิงกับราวสะพาน จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุมีรอยขูดแตกบริเวณด้านกระจังฝั่งซ้ายของรถจักรยานยนต์ บนสะพานกลับรถในจุดเกิดเหตุไม่พบผู้เสียชีวิต หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงมองลงมาด้านล่างที่พื้นถนน ก็พบร่างคนขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกระเด็นตกลงไปอยู่ด้านล่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำรถลงจากสะพานกลับรถเพื่อเปิดช่องทางการจราจร เมื่อลงมาตรวจสอบด้านล่าง พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา หน้าอกมีบาดแผลฉกรรจ์ แขนขาผิดรูป

จากการสอบถาม นายก้อง (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต บอกว่า ขี่รถจักรยานยนต์มาคนละคันกับผู้เสียชีวิต เดินทางมาจาก อ.นครหลวง เพื่อจะขึ้นสะพานกลับรถเข้าตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา พอถึงจุดเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตซึ่งไม่มีเบรกหน้าได้เสียหลัก ชนเข้าขอบราวสะพาน ร่างกระเด็นตกลงไปพื้นถนนด้านล่าง แล้วรถยนต์ที่ขับมาชนซ้ำลากร่างไปไกลกว่า 20 เมตร จนเสียชีวิต

ต่อมา นายไพบูลย์ อายุ 37 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาจุดเกิดเหตุ เพื่อมาดูศพลูกชายด้วยอาการร้องไห้โศกเศร้าเสียใจ นั่งอยู่ข้างกายลูกไม่ห่าง อีกทั้งยังวิดีโอคอลไปหาภรรยาซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิต เพื่อให้ดูร่างลูกชาย ทำให้พากันร้องไห้ระงม โดยนายไพบูลย์พูดกับภรรยาว่า พ่อขอโทษ พ่อผิดไปแล้ว จนเป็นภาพสะเทือนใจกับเจ้าหน้าที่

นายไพบูลย์ บอกว่า ลูกชายเรียนอยู่ชั้น ม.3 โดยก่อนหน้านี้ตนบอกกับลูกชายว่า ถ้าจบ ม. 3 แล้วจะซื้อรถจักรยานยนต์ให้ แต่เนื่องด้วยตนสงสารลูกชาย จึงได้ไปหาเงินมาซื้อรถจักรยานยนต์ให้ลูกชายก่อนที่จะเรียนจบ ม. 3 เมื่อประมาณเดือน พ.ย. 67 ตนเองรู้สึกเสียใจที่ซื้อรถจักรยานยนต์ให้ลูกชายก่อนกำหนดที่เคยสัญญากันไว้ จึงต้องมาสูญเสียลูกชายไปก่อนวัยอันควร ตนทำใจไม่ได้ และรู้สึกผิด พร้อมกับสงสารภรรยาซึ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัด ที่มาทราบข่าวร้ายลูกชายเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต

Leave a Comment