วันนี้ 6 มีนาคม 2568 หนึ่งในเจ็ดแม่ทีมขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้ออกมาเปิดเผยถึงขั้นตอนของขบวนการดังกล่าวว่า ตนเข้าเริ่มเข้าสู่ขบวนการปี 2559 และเริ่มเป็นแม่ทีม 2561 โดยมีหน้าที่ชักชวนหาผู้ป่วยสูงอายุ ตั้งแต่ 40-70 ปี ซึ่งมีทั้งป่วยจริงและป่วยทิพย์ รวมกันกว่า 100 คนในสายของตนเอง
จากนั้น นางเอี้ยง จะเป็นคนติดต่อมาสอบถามยอดและรายละเอียดของผู้ป่วย ก่อนจะนัดหมายรับส่งด้วยรถตู้ โดยระหว่างทางจะแนะนำบอกบทและวิธีขั้นตอนการพบแพทย์หญิงตัวย่อ บ. ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก และเป็นคนตรวจดูอาการก่อนจะจ่ายยาให้กับผู้ป่วย หรือทำพฤติกรรมเดียวกันกับโรงพยาบาลพระมงกุฏ แต่เป็นแพทย์ชายอีกคนหนึ่ง หากผู้ป่วยไม่ได้ป่วยจริง ตนจะแนะนำให้กินของหวานหรือที่มีไขมันเยอะๆก่อนไปเจาะเลือดตรวจหาโรค พร้อมกับกำชับว่า ห้ามพูดคุยทำนองไม่รู้จักกันตามคำสั่งของนางเอี้ยง
จากนั้น ก็จะเข้าพบหมอโดยทำท่าทีว่าเป็นคนหลงๆลืมๆ ตอบไม่ตรงคำถามเพื่อตบตาแพทย์ที่เข้าพบหากเจอแพทย์คนอื่นที่ไม่ใช่ แพทย์หญิงตัวย่อ บ. แต่ถ้าเจอแพทย์ตัวย่อ บ. ก็เพียงแค่ยื่นกระดาษโน๊ตเพียงใบเดียว
ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้งหมดที่ตนหามาเคนได้รับยามูลค่ารวมสูงสุดตีเป็นเงินจำนวนประมาณ 40,000 บาท ซึ่งจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากนางเอี้ยง 3,000 บาท หากเป็นผู้ป่วยมือใหม่อาจจะได้ค่าคอมมิชชั่นแค่หลักร้อย
หลังจากที่ผู้ป่วยทั้งหมดรับยามา ทุกคนจะนำยามามอบให้กับตนภายในรถตู้ที่จอดคอยรอรับกลับอยู่ที่ปั๊มน้ำมันข้างโรงพยาบาล พร้อมกับจ่ายเงินให้กับผู้ป่วย
จากนั้น รถตู้ได้ขับออกจากปั๊มน้ำมันขับไปยังหมู่บ้านค่ายทหารแห่งหนึ่งย่านแยกเกียกกาย เพื่อรับเงินค่าดำเนินการทั้งหมดกับ นางหรีด ตนมาทราบทีหลังว่า นางหรีดเป็นทหารยศใหญ่ที่ยังรับราชการอยู่ และยังทราบว่า นางหรีดนำยาทั้งหมดที่ได้มานำไปเก็บไว้ที่ร้านซักรีดคอนโดแห่งหนึ่งย่านพระราม 4 ซึ่งหลังจากนี้ตนไม่ทราบแล้วว่า ยาทั้งหมดไปอยู่ที่ไหน
พอหลังจากเป็นข่าว นางเอี้ยงได้พยายามติดต่อมาหาตน พร้อมกับบอกให้ทำลายหลักฐานอาทิเช่น โพยอาการ , แชทไลน์ และซิมมือถือ ป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล และให้ติดต่อไปที่ นางป้อม หนึ่งในเครือข่าย เพื่อรับเงินจำนวน 3,000 บาท มาซื้อโทรศัพท์หรือซิมมือถือใหม่ แต่ตนไม่ได้ทำตามที่นางเอี้ยงสั่ง เพราในระหว่างที่นางเอี้ยงติดต่อมา ตนได้อยู่ในฐานะพยานของคดีแล้ว
ส่วนกรณีที่มีคนเสียชีวิตจากการถูกแนะนำให้ของทอดและของติดมันเยอะๆก่อนเข้าพบแพทย์นั้น ตนยืนยันว่า ผู้ป่วยที่เสียชีวิตเป็นลูกทีมของสายนางเอี้ยง พื่นที่จังหวัดชลบุรี ที่เดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลในกทม. ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ตนนั้นไม่ทราบปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะพิสูจน์ความจริง
ส่วนสาเหตุที่ตนต้องการเลิก เพราะถูกเพื่อนสามีเตือนสติว่าการกระทำที่ตนทำอยู่นั้นมันผิดกฎหมาย ตนจึงตัดสินใจทำตามคำแนะนำของเพื่อนสามี โดยการยังทำเหมือนเดิม และรวบรวมเก็บหลักฐานก่อนนำมายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นพยานในคดี หากแม้ตนจะถูกดำเนินคดีหลังออกมาแฉขบวนการดังกล่าว ขอความเห็นใจเจ้าหน้าที่เพราะตนก็ออกมาทำประโยชน์ต่อรูปคดีแล้ว
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงาน