วันที่ 29 มิ.ย.2568 พล.ต.ต.ทรงกรด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.วริษฐ์ ปทุมารักษ์ ผกก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุพจน์ ทองมาเอง สว.กก.2 บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ สสจ.ลพบุรี ร่วมกันจับกุม น.ส.วิไลวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ความผิดฐาน “ติดต่อ ชักชวน หรือรบเร้าบุคคลตามถนนหรือสาธารณสถาน เพื่อการค้าประเวณี, ร่วมกันเข้าไปมัวสุมในสถานการค้าประเวณีเพื่อประโยชน์ในการค้าประเวณี”,
น.ส.กมลชนก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ความผิดฐาน “ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ,เป็นเจ้าของกิจการค้าประเวณี, ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพโดยไม่ได้รับใบอนุญาต”,
น.ส.อรุษรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี, น.ส.ชัชฎาภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี, น.ส.ธิดาวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี และ น.ส.ประภัสสร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ความผิดฐาน “ร่วมกันเข้าไปมั่วสุมในสถานการค้าประเวณีเพื่อประโยชนในการค้าประเวณีของตนเอง” ได้ที่ร้านนวดแผนโบราณแห่งหนึ่งใน ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า ร้านนวดดังกล่าวแอบแฝงลักลอบค้าประเวณี จึงปลอมตัวเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการนวดน้ำมัน 1 ชั่วโมง ราคา 400 บาท หลังนวดไปได้ประมาณ 40 นาที ผู้ต้องหาเสนอให้บริการนวดพิเศษ (บริการทางเพศ) ราคา 1,500 บาท
หลังตกลงและจ่ายเงินรวม 1,900 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้บุกเข้าไปยังห้องชั้น 2 ที่กำลังให้บริการอยู่ เมื่อตรวจสอบธนบัตรของกลางที่ใช้ล่อซื้อจึงทำการจับกุม
จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นหมอนวดแผนไทย และแอบแฝงค้าประเวณีจริง จากการตรวจสอบพบ น.ส.กมลชนก รับว่าเป็นเจ้าของร้านนวด และไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการนวดเพื่อสุขภาพอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายในร้านยังพบพนักงานนวดอีก 4 คน จึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งสภ.เมืองลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอเตือนภัย ด้วยในระยะหลังพบว่ามีร้านนวดแผนไทย หรือสถานประกอบการบางแห่ง แอบแฝงกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การค้าประเวณี หรือแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากหญิงสาว หรือแรงงานต่างด้าว
ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และหากเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จะเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากการค้าประเวณีเด็กอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน