ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีพระลูกวัดของวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทำนบ อ.สิงหนคร จ.สงขลา เสพยาบ้าภายในกุฏิวัด สร้างความไม่สบายใจให้กับชาวบ้านที่ทราบข่าว จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบ หลังรับเรื่องจึงได้ประสาน พ.ต.อ.ชาตรี รัตนคช ผกก. สภ.สิงหนคร และ นายเอกสิทธิ์ สองเมือง นายอำเภอสิงหนคร ให้รับทราบ ก่อนจะมีการสั่งการให้ ‘ส.ต.ท.จิรศักดิ์ ชูแก้ว’ ปลัดอำเภอสิงหนคร ตรวจสอบวัดดังกล่าว
เจ้าหน้าที่แจ้งให้เจ้าอาวาสได้รับทราบ และถามหาพระสงฆ์รูปดังกล่าว พร้อมกับนำภาพและคลิปที่พระสงฆ์รูปนี้กำลังนั่งเสพยาบ้าให้ทางเจ้าอาวาสดู เจ้าอาวาสได้แจ้งว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าวมีตัวตนจริง จำวัดอยู่ที่นี่จริง อายุ 50 ปี เป็นชาว อ.หาดใหญ่ ก่อนจะพาเจ้าหน้าที่ไปที่กุฏิที่พระรูปนี้จำวัดอยู่
เจ้าหน้าที่ได้เคาะประตูเรียก พระรูปดังกล่าวได้เปิดประตู ทางเจ้าหน้าที่ได้นำภาพและคลิปให้ดูว่าเป็นบุคคลในภาพหรือไม่ เบื้องต้น พระยอมรับสารภาพว่าเป็นบุคคลในภาพจริง เจ้าหน้าที่นำตัวตรวจสารเสพติด พบปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงได้นำตัวสึกกับเจ้าอาวาสวัด
ส.ต.ท.จิรศักดิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้เข้าร่วมสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิงหนคร ดำเนินการตรวจสารเสพติด พบสารเสพติดในร่างกายเป็นเมทแอมเฟตามีน จากนั้นก็ได้นิมนต์เจ้าวาสทำการสึกให้พระ หลังทำการสึก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาเสพสารเสพติด ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย ได้มีการสอบถามว่าเสพยามานานหรือยัง เจ้าตัวบอกว่า เสพมานานแล้ว ส่วนจะพาเข้าบำบัดหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่ที่ศาลตัดสินอีกครั้ง
ผู้ต้องหา ให้การเบื้องต้นว่า ตนเองเสพยาบ้าและหยุดมาหลายปีแล้ว วันที่เสพมีเด็กวัดนำยาบ้ามาให้ วางไว้ 2 เม็ด จึงอดใจไม่ไหว ไม่คิดว่าเด็กวัดจะถ่ายภาพช่วงที่ตนกำลังเสพยาแล้วส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ตนตั้งใจจะบวชไม่สึก และได้ยกเครื่องมือมาถวายวัด เมื่อก่อนตนเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างและรับเหมางานไฟ ในช่วงที่ทำงานตนรู้สึกเบื่อ จึงมานั่งคิดว่าที่บ้านก็ไม่มีอะไรต้องพะวง บวกกับตัวเองก็ไม่มีครอบครัว มีแค่พ่อแม่และญาติพี่น้อง จึงได้ตัดสินใจหาวัดรอบนอกที่กำลังพัฒนา และตนก็ถือโอกาสที่จะพัฒนาวัดด้วย
พอเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวรู้สึกเสียใจ เกือบจะบ้า คิดว่าไม่น่าเลย ที่ผ่านมาตนประพฤติตัวดีมาตลอด ชาวบ้านก็ศรัทธา ผิดที่ตนไม่ยับยั้งชั่งใจ อยากขอโทษเจ้าอาวาสและชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านก็บอกว่าจะดำเนินการประกันตัว และให้กลับไปอยู่ที่วัดเหมือนเดิม ถ้าได้กลับจะขอโทษเจ้าอาวาสและชาวบ้านว่าพลาดไปแล้วตนตั้งใจที่จะบวช ตั้งใจถวายอุปกรณ์เครื่องมือให้กับวัดไปหมดแล้ว ถ้าไปคงไม่เอาอะไรแล้ว
