ครูสาววัย 39 เขียนจดหมายถึง ศธ. พ้อเครียดหนักทำการเงิน รร.ไม่มีระบบ ก่อนปลิดชีพตัวเองดับ

วันที่ 16 มิ.ย. 68 เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เรืองศักดิ์ แสงรัมย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านสี่เหลี่ยมใหญ่ หมู่ 3 ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ตอบโต้ภัยพิบัติบุรีรัมย์ อำเภอลำปลายมาศ และกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ จุดหนองบัวโคก

ครูสาววัย 39 เขียนจดหมายถึง ศธ. พ้อเครียดหนักทำการเงิน รร.ไม่มีระบบ ก่อนปลิดชีพตัวเองดับ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เลขที่ 145 หมู่ที่ 3 ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ บริเวณห้องนอนชั้นล่างของบ้านพบร่างนางสาวอนุสรา หรือครูมัท ชวนรัมย์ อายุ 39 ปี ข้าราชการครู ของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์

ครูสาววัย 39 เขียนจดหมายถึง ศธ. พ้อเครียดหนักทำการเงิน รร.ไม่มีระบบ ก่อนปลิดชีพตัวเองดับ

ใช้เชือกลูกเสือไนล่อนสีแดง ผูกกับขื่อห้องนอนในบ้านบ้าน ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ทรัพย์สินภายในห้องไม่มีร่องรอยของการรื้อค้น คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชม.

ข้างศพพบซองจดหมาย หน้าซองเขียนไว้ว่า จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน จากมัท เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยในซองจดหมายมีถึง 5 หน้ากระดาษ โดยหน้าที่ 1 – 4 ผู้ตายได้เขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู , ลูกสาววัย 10 ขวบและพ่อแม่

ครูสาววัย 39 เขียนจดหมายถึง ศธ. พ้อเครียดหนักทำการเงิน รร.ไม่มีระบบ ก่อนปลิดชีพตัวเองดับ

ส่วนหน้าที่ 5 ครูมัท เขียนข้อความบรรยายเกี่ยวกับการทำงานระบุว่า”ข้าพเจ้าขอลาทุกคนบนโลกใบนี้ ไปด้วยความ ไม่สบายกาย และไม่สบายใจ ด้วยมีปัญหาในการเรื่อง การทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งข้าพเจ้าให้ท่านคั่งค้าง ทำให้พอกพูนจนแก้ไขได้ยาก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะข้าพเจ้าเพียงคนเดียว แต่เป็นเพราะเกิดจาก กระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน การทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อน เคลียร์เอกสารทีหลัง และก็นิ่งเฉยไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเอง จนหัวจะระเบิดไมเกรนแทบทุกวัน ข้าพเจ้าเหนื่อยกาย กับการทำงาน นี้มากๆ สุขภาพก็ไม่ดีสะสมมาเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจจากโลกนี้ไป ก็เพราะเพื่อนร่วมงาน ที่จัดการ สั่งการมาโดยตลอด แต่พอถึงเวลามีความผิด กับบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้อง นั้นก็คือครูต่อ

ส่วน ผอ.ที่ย้ายมาแต่ละคนก็ไม่เคร่งครัดเรื่องการเงินเลย ไม่มีความรู้ด้านการเงิน ใช้เงินไม่ถูกต้อง แต่พอมีความผิดอ้างว่าเราเป็นคนทำ ข้าพเจ้าขอโทษต่อเพื่อนร่วมงาน ท่านอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ข้าพเจ้าไม่สามารถทำงานนี้ต่อไปอีกได้แล้ว ถ้าอยู่ต่อไปคงพิการ หรือเส้นเลือดในสมองแตกตาย ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับทุกคนขออย่าให้ร้ายกัน ในวันที่ข้าพเจ้าไม่สามารถโต้แย้งใดๆได้ ส่วนที่ผิดขอน้อมรับ แต่ส่วนที่ไม่ใช่ก็ขออย่าใส่ร้ายกันเลย

ฝากถึงกระทรวง ให้ช่วยเห็นใจ ครูการเงิน และพัสดุด้วยนะคะ อย่าให้ต้องทำงานหนักและเสี่ยงชีวิตแบบนี้เลย ลาก่อน ครู อนุสรา ชวนรัมย์

นายสุพจน์ ชวนรัมย์ อายุ 68 ปี (เสื้อน้ำเงิน) พ่อครูมัท เล่าว่าตนเองมีลูกสาว 2 คน ทั้งสองคนสอบบรรจุข้าราชการครู โดยครูมัท เป็นลูกสาวคนเล็กสอบติดครูและลงบรรจุที่โรงเรียนบ้านบุ หนองเทา ในอ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ในตำแหน่งครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ และเป็นครูการเงินของโรงเรียนอีกด้วย ส่วนเรื่องสาเหตุการผูกคอเสียชีวิตตนเองไม่ทราบ เพราะลูกสาวเป็นคนไม่ค่อยพูด

ขณะนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี เพื่อนครูต่างโรงเรียน เล่าว่าผู้ตายโทรศัพท์มาปรึกษาหลายเรื่องเช่นครูในโรงเรียนเขียนโครงการเบิกเงินไปใช้แล้ว ไม่นำใบเสร็จมาส่งให้ล้างหนี้เงินที่เบิกไปใช้ เท่าที่ทราบวันพรุ่งนี้ เจ้าหน้าที่การเงิน ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 จะเข้ามาตรวจสอบที่โรงเรียน ซึ่งอาจจะทำให้ครูมัท เกิดความเครียดจนคิดสั้น

ด้านนายปราโมทย์ พรหมบุบผา ผอ.โรงเรียนบ้านบุหนองเทา เล่าว่าตนเองมารับตำแหน่ง ผอ.เมื่อปลายปี 2565 ซึ่งครูมัท ก็เป็นครูการเงินของโรงเรียนอยู่ก่อนแล้ว ทั้งหมดหากครูมัทมาปรึกษาอาจจะมีแนวทางแก้ไขได้ แต่ครูมัทเลือกวิธีอัตวินิบาตกรรมเพื่อจบปัญหา

ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดบุรีรัมย์ รายงาน

Leave a Comment