จากกรณีเงิน 12 ล้านบาท ซุกในกล่องวางไว้ข้างกองขยะในคอนโดมีเนียมย่านเมืองทองธานี ต่อมานายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน อ้างว่าเก็บเอาไว้ตั้งแต่ปี 2563 เป็นเงินจากการเป็นทนายความนั้น
เมื่อวันที่ 12 มิย. ความคืบหน้าล่าสุด รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ บช.ภ.1 ตำรวจนนทบุรี ได้ที่มาที่ไปอย่างชัดเจนแล้ว โดยจากการสอบสวนธนาคารที่มีการเบิกจ่ายเงินออกมา พบว่าเป็นเงินที่เบิกในช่วงปี 2563 จริง ซึ่งมีผู้มาทยอยเบิกเงินสดครั้งละ 1,900,000 บาท ทั้งนี้หากเบิกเกิน 2 ล้านบาทขึ้นไป จะต้องแจ้งปปง.เพื่อตรวจสอบ
จากการสอบสวนทราบว่า เงินทั้ง 12 ล้านบาท ทยอยเบิกจากบริษัท 4 แห่ง ที่เชื่อมโยงกับนายทวีวัฒน์ ต่อมาบริษัทเหล่านี้ ได้เลิกกิจการไปในช่วงปี 2564 เมื่อสอบต้นตอเงิน พบว่าโอน จากบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ของเสี่ยชื่อดัง ซึ่งประกอบกิจการผลิตวัสดุก่อสร้าง กิจการปิโตรเคมี รวมทั้งโรงงานกำจัดขยะ โดยโอนเข้าบริษัท 4 แห่งที่เกี่ยวข้องกับนายทวีวัฒน์
จากการสืบสวนสอบสวนทำให้ทราบว่า ต้นตอเกี่ยวข้องกับกรณีบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ มีบทบาทในการผลักดันโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ในพื้นที่อ.จะนะ จ.สงขลา แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดท้องทะเล แหล่งประมง จึงโดนชาวบ้านต่อต้านโครงการนี้อย่างรุนแรง โดยในช่วงปี 2563 เป็นช่วงการจัดทำประชาพิจารณ์ เป็นขั้นตอนเพื่อตัดสินว่าจะก่อสร้างโครงการนี้ได้หรือไม่
มีมวลชนทั้งฝ่ายต่อต้าน และฝ่ายสนับสนุนให้สร้าง มีข้อมูลว่านายทวีวัฒน์เกี่ยวข้องกับมวลชนฝ่ายสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เชื่อมโยงกับเงินโอนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลักจากรวบรวมพยานหลักฐานได้เพิ่มมากขึ้น ตำรวจเตรียมเรียกตัวนายทวีวัฒน์มาสอบเพิ่มเติมในประเด็นล่าสุด
