วันที่ 11 มิถุนายน 2568 กรณีตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) บุกจับ พ.ต.อ.หญิง อัญชุลี เพ็ชรรัตน์ญ หรือที่รู้จักในชื่อ “หมอแอร์” จิตแพทย์ชื่อดังโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวกรวม 5 คน ในข้อหาร่วมกันค้ายาเสียสาว หรือยาที่จัดอยู่ในวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และ 4 โดยตรวจค้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลรวม 9 จุด พบของกลางยาอัลปราโซแลมเกือบ 180,000 เม็ด เงินหมุนเวียนสูงถึง 400 ล้านบาท
หนึ่งในจุดที่เข้าตรวจค้น คือ ห้องพักแฟลตตำรวจเฉลิมลาภ ซอยพหลโยธิน 6 ซึ่งพบยาเสพติดจำนวนมาก โดยมีการซัดทอดว่า หมอแอร์เป็นผู้สั่งการนำยามาพักไว้ที่นี่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมเธอที่คอนโดย่านราชดำริ โดยหมอแอร์ไม่ขอยื่นประกันตัวทั้งในชั้นสอบสวนและชั้นศาล
เปิดอดีตดาวจิตแพทย์ โฆษกตำรวจยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ หมอแอร์ แจ้งเกิดในวงการสื่อและราชการจากบทบาทรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโฆษกศูนย์รักษาความสงบในยุครัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีภาพลักษณ์โดดเด่นในฐานะจิตแพทย์หญิงคนเก่ง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายแพทย์ (สบ 5) ด้านเวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลตำรวจ
ดราม่าเก่า ไม่ต้องแอ๊บแบ๊ว กับไฮโซตั๋ม กลับมาอีกครั้ง หมอแอร์เคยมีประเด็นดราม่ากับ ไฮโซตั๋มวิชชุดา ลีนุตพงษ์ เมื่อปี 2558 จากความขัดแย้งส่วนตัวเกี่ยวกับนายตำรวจคนหนึ่ง จนนำไปสู่การฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาท โดยศาลพิพากษาให้รอลงอาญาจำคุก 2 ปี พร้อมกับวลี “ไม่ต้องแอ๊บแบ๊วค่ะ คนเขาดูออก
ซึ่งกลายเป็นวลีฮิต และถูกพูดถึงอีกครั้งหลังการจับกุมล่าสุด หลังข่าวหมอแอร์ถูกจับ ไฮโซตั๋มได้โพสต์ข้อความแฝงอารมณ์สะใจว่า Why does it feel like a Christmas morning in the middle of June?
ประวัติดราม่ารัวๆ ก่อนถึงวันตกต่ำ
ปี 2559 ถูกตรวจสอบเรื่องใช้เวลาราชการไปทำงานส่วนตัว
ปี 2562 วิจารณ์หนักจากโพสต์ชวนคลอดลูกที่สหรัฐฯ เพื่อให้ได้สัญชาติ
ปี 2565 ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง กรณีรับเงินวิ่งเต้นต่อวีซ่า ศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 7 ปี แต่สามารถตกลงกับผู้เสียหายได้
คดีล่าสุด สะเทือนวงการจิตแพทย์ ตำรวจเตรียมเอาผิดวินัยร้ายแรง
จากการตรวจสอบพบว่า หมอแอร์แอบอ้างใช้ชื่อ 11 คลินิกในกรุงเทพฯ สั่งซื้อยาอัลปราโซแลมจำนวนมาก โดยใช้ชื่อของเธอในการชำระเงินเพียงคนเดียว ก่อนนำยาไปพักไว้ที่แฟลตตำรวจและจำหน่ายต่อ ซึ่งจากการตรวจสอบย้อนหลัง พบมีคนเสียชีวิตจากการใช้ยาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ถึง 370 ราย โรงพยาบาลตำรวจได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ระหว่างดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่าง
เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์