จากกรณีที่มีหญิงชราวัย 76 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี หลังได้รับความเดือดร้อนจากการถูกลูกชายทอดทิ้งไว้ภายในแคมป์คนงานก่อสร้าง ย่านคลองพระอุดม อำเภอปากเกร็ด ขณะที่แคมป์กำลังจะถูกรื้อถอน ทำให้ผู้ดูแลไม่สามารถรับภาระได้อีกต่อไป
หญิงรายนี้มีอาการหลงลืมจากโรคอัลไซเมอร์ ไม่สามารถเดินได้ และสื่อสารไม่รู้เรื่อง โดยกล่าวถึงลูกชายว่า มักดื่มสุราและมีปากเสียงกับตนเป็นประจำ แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกายต่อมา กำนันตำบลบางพลับ ได้เดินทางมาที่ สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ พร้อมนำอาหารมาให้หญิงชรา และได้ประสานงานกับปลัดอำเภอเพื่อหาทางช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภาพจาก เว็บไซต์ :
เดลินิวส์
ญาติห่าง ๆ ของหญิงรายนี้ เล่าว่า ยายเป็นพี่สาวของย่าตน โดยลูกชายของยายเคยอาศัยอยู่ในแคมป์กับพ่อของตนมาก่อน แต่ถูกไล่ออกเพราะไม่ทำงานและติดสุรา หลังจากนั้นได้งานใหม่เป็น รปภ. และพายายไปอยู่ด้วยที่ห้องเช่าในพื้นที่ปากเกร็ด แต่ไม่นานก็อ้างว่าเจ้าของห้องไม่ให้ยายอยู่เพราะส่งเสียงดังและมีกลิ่นตัวแรง จึงพายายกลับมาทิ้งไว้ที่แคมป์ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ในช่วงแรก ลูกชายยังส่งข้าวให้บ้างประมาณ 3-4 วัน ก่อนจะขาดการติดต่อ โทรไม่รับ ไลน์ไม่ตอบ ญาติเผยว่า พ่อของตนก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ต้องช่วยดูแลยายที่ไม่สามารถเดินได้และไม่มีที่อยู่อาศัยอย่างถาวร แม้ว่าจะมีชื่ออยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ แต่ไม่มีใครอยู่บ้านหลังนั้นแล้ว จึงตัดสินใจนำยายมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดนนทบุรี พร้อมทีมงาน ได้เข้ารับตัวหญิงชราไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี เพื่อดูแลเรื่องความเป็นอยู่ สุขภาพ และสภาพจิตใจในเบื้องต้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้าน โดย พม.นนทบุรี ได้ประสานไปยัง พม.จังหวัดพิษณุโลก เพื่อสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าเป็นจังหวัดตามภูมิลำเนาที่แท้จริงของหญิงชรารายนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อบุตรชายคนโตของหญิงรายนี้ได้ ซึ่งพบว่าเป็นผู้พิการติดเตียง อาศัยอยู่กับภรรยาที่มีอายุมากเช่นกัน ทั้งคู่ไม่มีรายได้จากอาชีพอื่น นอกจากสวัสดิการแห่งรัฐ และไม่สามารถรับมารดากลับไปดูแลได้ สำนักงาน พม.จังหวัดนนทบุรี จะดำเนินการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลหญิงชรารายนี้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี จะดำเนินการติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางดูแลและช่วยเหลือผู้สูงอายุรายนี้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่องต่อไป
ภาพจาก เว็บไซต์ :
เดลินิวส์
เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์