ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางภัค น่องพงษ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ศาราครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี และชาวบ้านเรื่องถนนเลียบคลองระพีพัฒคลอง 13 ตั้งแต่ ม.4 ต.ศาราครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ไฟส่องสว่างถนนเลียบคลองระพีพัฒน์ คลอง13 ตั้งแต่ อ.หนองแค จ.สระบุรี ไปจนถึงหน้าปากทาง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ไฟฟ้าดับใช้ไม่ได้มานานเกินกว่า 5 ปีส่งผลให้รถที่ใช้ถนนเส้นนี้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตมาแล้วหลายสิบรายร่วมถึงโจรลักมิเตอร์น้ำระบาดหนัก
โดย นางภัค น่องพงษ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ศาราครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี กล่าวว่าตอนนี้ชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.ศาราครุ และ ตำบลใกล้เคียงต่างได้รับผลกระทบจากไฟฟ้าส่องสว่างบนถนนเลียบคลองระพีพัฒน์ คลอง13 ที่ดับมานานกว่า 6 ปีตั้งแต่หน้าปากทาง อ.ธัญบุรี จนกระทั่ง ไปถึง อ.หนองแค จ.สระบุรี ระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร ในสมัยตนยังเป็นผู้ใหญ่บ้านอยู่ จนขณะนี้ไฟก็ยังไม่ติดจนส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่ขับขี้รถ จยย.ใช้ถนนที่ต้องจบชีวิตไปแล้วหลายสิบรายรวมถึงทำให้มีโจรขโมยลักมิเตอร์น้ำของชาวบ้านระบาดหนักมาอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดไม่กี่วันมานี้โจรได้ลักมิเตอร์น้ำของชาวบ้านไปแล้วหลายสิบหลังจนไม่มีน้ำใช้ จึงฝากการไฟฟ้าหรือทางหลวงเร่งมาช่วยชาวบ้านด้วยพวกท่านนำงบประมาณมาทิ้งเอาไว้ทำไม่แบบนี้มันสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช้เหตุอีกทั้งตอนนี้ชาวบ้านต่างคิดว่าเสาไฟฟ้าส่องสว่างข้าวทางนั้นกลายเป็นอนุสาวรีย์ไปแล้วจึงฝากให้มาแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านโดยด่วน
ในขณะที่ทางนายนพดล ทรัพย์ประสม กล่าวด้วยความเซ็งว่าตนเพิ่งกลับจากไปทำงานมา 2 วันพอกลับมาถึงเห็นว่ามิเตอร์น้ำหน้าบ้านได้หายไปทำอะไรไม่ถูกเลยไม่รู้จะทำอย่างไรวันนี้คงไม่มีน้ำใช้อย่างแน่นอน ฝากไปถึงโจรที่ลักไปว่าอย่าทำแบบนี้เลยขายได้ไม่เท่าไหร่หลอกแต่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปทั่ว
ส่วนทางด้านนางสมศรี เฉลยท้อย กล่าวว่าบ้านตนมิเตอร์น้ำได้หายไปเมื่อสองวันก่อน โดยในช่วงห้าทุ่มของวันที่หายก็มาเปิดน้ำปรากฏว่าน้ำไม่ไหลจึงได้ไปดูก็พบว่ามิเตอร์น้ำหายไป ในขณะที่บ้านญาติตนที่ติดกันก็ถูกลักมิเตอร์น้ำไปแล้ว 3 ครั้งจนตอนนี้บ้านตนและบ้านญาติต่างจำเป็นต้องต่อสายตรงใช้ไปก่อนจึงฝากสอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายได้โดยเร็วเพราะชาวบ้านเดือดร้อนหนักในเรื่องนี้ ซึ่งปัญหาโจรขโมยที่ระบาดหนักในขณะนี้ก็เนื่องมาจากไฟฟ้าส่องสว่างได้ดับมาแล้วนานหลายปีทำให้พื้นที่บริเวณนี้มึดมากส่งผลให้มีโจรชุกชุมเป็นอย่างมากขนาดในช่วงเช้าตอนยังไม่ถึงหกโมงเช้าตนไปใส่บาตรรถที่วิ่งมาเกือบจะชนพระกับตนรองคิดดูว่ามึดขนาดไหน
กำพล วงศ์สุทธา ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดปทุมธานี รายงาน