เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 เปิ้ล นาคร ศิลาชัย และ จูน กษมา ศิลาชัย คู่สามีภรรยาผู้เป็นที่รู้จักในฐานะจิตอาสา ได้เข้าแจ้งความกับ พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ณ เมืองทองธานี หลังจากถูกกลุ่มมิจฉาชีพสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมของร้าน “หม้อแม่จูน” เพื่อหลอกลวงให้ลูกค้าโอนเงินสั่งซื้อสินค้า จนมีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
เปิ้ล นาคร เผยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ตนเข้าร่วมกิจกรรมกับตำรวจไซเบอร์เพื่อรณรงค์เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่กลับถูกมิจฉาชีพฉวยโอกาสเปิดเพจ หม้อแม่จูน ปลอม โดยมีผู้ติดตามนับพันคน และเริ่มหลอกให้ลูกค้าสั่งซื้อแกงไก่ในราคาหม้อละ 459 บาท โดยอ้างโปรโมชันและจัดส่งรวดเร็ว ซึ่งไม่เป็นความจริง
“มีหลายคนทักเข้ามาหาผมเพื่อจะมารับของ แต่ผมก็ตกใจ เพราะลูกค้าโอนเงินให้ใครก็ไม่รู้ เปิ้ลกล่าว พร้อมย้ำว่าบัญชีจริงของร้านคือชื่อ นาคร ศิลาชัย เท่านั้น และคิวการทำแกงของร้านจริงยาวนานกว่าครึ่งเดือน ไม่สามารถส่งของได้ทันทีตามที่มิจฉาชีพอ้าง ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับลูกค้ามีมูลค่ารวมสูงมาก เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้เป็นมืออาชีพ ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย และสามารถทำเงินได้นับร้อยล้านบาทต่อปี
มีหลายคนทักเข้ามาหาผมเพื่อจะมารับของ แต่ผมก็ตกใจ เพราะลูกค้าโอนเงินให้ใครก็ไม่รู้ เปิ้ลกล่าว พร้อมย้ำว่าบัญชีจริงของร้านคือชื่อ นาคร ศิลาชัย เท่านั้น และคิวการทำแกงของร้านจริงยาวนานกว่าครึ่งเดือน ไม่สามารถส่งของได้ทันทีตามที่มิจฉาชีพอ้าง ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับลูกค้ามีมูลค่ารวมสูงมาก เพราะมิจฉาชีพเหล่านี้เป็นมืออาชีพ ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย และสามารถทำเงินได้นับร้อยล้านบาทต่อปี
ด้าน จูน กษมา เสริมว่า แม้จะเห็นข่าวภัยออนไลน์มาตลอด แต่เมื่อเจอเข้ากับตัวเองก็รู้สึกตกใจมาก จึงอยากฝากเตือนทุกคนให้ คิดก่อนโอน และ ไตร่ตรองก่อน เสมอ โดยเฉพาะเมื่อเห็นชื่อบัญชีผู้รับโอนเงินที่ไม่ใช่ชื่อที่ถูกต้อง
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ระบุว่า ได้สอบปากคำ เปิ้ลและจูนไว้แล้ว และจะดำเนินคดีอย่างเต็มที่ โดยจะเร่งสาวถึงตัวผู้กระทำความผิดที่อยู่ต่างประเทศ พร้อมเตือนผู้ที่รับจ้างเปิด บัญชีม้า ว่าจะถูกดำเนินคดีในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ขอให้กลับตัวกลับใจ หรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ย้ำว่าการถูกหลอกจากการเปิดเพจปลอมเพื่อขายสินค้าเป็นอาชญากรรมออนไลน์ที่มีผู้เสียหายมากที่สุด ขอให้ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อรีบแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ หรือติดต่อสายด่วน 1441 เพื่อทำการอายัดบัญชีม้าและหยุดยั้งการหลอกลวงที่กำลังเกิดขึ้น
เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์
