วันที่ 11 พ.ค. 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.บัญชา ศรีตัญญู สว.กก.2 บก.ปทส.พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมและเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันตรวจสอบ บริษัท แห่งหนึ่ง หมู่ที่ 6 ต.บางปะหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
พร้อมตรวจยึด
1. เครื่องจักรที่ใช้ประกอบกิจการโรงงานประเภท 106 กำลังเครื่องจักรรวม 536.12 แรงม้า
2. กองกากอุตสาหกรรมทั้งภายในและภายนอกอาคารโรงงาน รวมถึงเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ ถังน้ำมันปนเปื้อน ที่อยู่บริเวณด้านหลังโรงงาน รวม 256 ตัน
สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือน พ.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปทส.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. และเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จ.ปทุมธานี ร่วมกันจับกุม นาย ศราวุฒิฯ อายุ 48 ปี โดยกล่าวหาว่า มีหรือครอบครองซึ่งวัตถุอันตราย (ชนิดที่ 3) โดยไม่ได้รับอนุญาต (ชิ้นส่วนอุปกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์) หรือเศษ (ไม่รวมเศษจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า) ที่มีส่วนประกอบซึ่งไดแก่ตัวเก็บประจุไฟฟ้าและแบตเตอรี่อื่นๆ สวิทช์ที่มีปรอทเป็นองค์ประกอบในการทำงาน เศษแก้วจากลอดรังสีแคโทดและแอกติเวเต็ดกลาส อื่นๆ ตังเก็บประจุไฟฟ้าที่มีสารพีชีบี หรือปนเปื้อนด้วยแคดเมียม ปรอท ตะกั่ว โพลีคลอริเนทเต็ดไบฟีนิล ฯลฯ
ตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตรา พ.ศ.2535 นำตัวส่ง พงส.สภ.คลองหลวงเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป โดยได้จับกุมตัวที่ บริเวณ กม.16+500 ถนนกาญจนาพิเศษ ทล.พ.9 มุ่งหน้าบางนา ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี จากการจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าตำรวจ บก.ปทส.ได้มีการสืบสวนขยายผลถึงแหล่งที่มาจนทราบว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวรับมาจาก บริษัทแห่งหนึ่งใน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ
ต่อมา จากการขยายผล ซึ่งเป็นบริษัทต้นทางของขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปทส.พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ร่วมกันตรวจสอบ บริษัท แห่งหนึ่ง หมู่ที่ 6 ต.บางปะหัน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย พบนายสตีเฟ่นฯ ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการเป็นผู้นำตรวจ
โดยผลการตรวจสอบพบ การกระทำความผิดดังนี้
1. กองเก็บวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ และกากของเสียจากการผลิตไว้ ภายนอกอาคารโรงงาน
2. ขยายการประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยตรวจพบการคัดแยกวัตถุดิบที่เป็นเศษยางและเศษพลาสติก มีการใช้กำลังเครื่องจักรเพิ่มขึ้นจากเดิม 138 แรงม้า อีกทั้งนำเศษสายไฟมาปอกเปลือกที่บริเวณหน้าโรงงานซึ่งเป็นการประกอบกิจการภายนอกพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต
3. ประกอบกิจการโรงงานเข้าข่ายโรงงานประเภท106 โดยตรวจพบการบดย่อยและร่อนแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วภายในพื้นที่อาคารโรงงาน เพื่อนำโลหะกลับมาใช้ใหม่ เป็นการประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยตรวจพบการใช้กำลังเครื่องจักร 536.12 แรงม้า
4. ครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 บัญชีที่ 5.2 ของเสียเคมีวัตถุ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 โดยตรวจพบการเก็บกากอุตสาหกรรมไว้ในถุง Big Bag และถัง IBC บริเวณด้านหลังพื้นที่โรงงาน ประมาณ 86 ตัน อาทิ ขยะอิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ และถังน้ำมันปนเปื้อน
เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และ สอจ.พระนครศรีอยุธยา ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ยึดอายัดวัสดุสิ่งของ ประกอบด้วย
1. เครื่องจักรที่ใช้ประกอบกิจการโรงงานประเภท 106 กำลังเครื่องจักรรวม 536.12 แรงม้า
2. กองกากอุตสาหกรรมทั้งภายในและภายนอกอาคารโรงงาน รวมถึงเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์ อะไหล่รถยนต์ ถังน้ำมันปนเปื้อน ที่อยู่บริเวณด้านหลังโรงงาน รวม 256 ตัน พร้อมนำบันทึกและเอกสารที่เกี่ยวข้องส่ง พงส.สภ.บางปะหัน เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน