เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2568 จากกรณีที่นางลำพวน อำไร อายุ 59 ปี ชาวบ้าน ต.บ้านเดื่อ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ได้เข้าแจ้งความกับร้อยเวร สภ.บ้านเดื่อ เมื่อวันที่24 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่ามีเพื่อนบ้านจำนวน 2 คนได้ล่อลวงหลานสาว น้องบี (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ซึ่งน้องเป็นเด็กพิการทางสมอง กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนประจำหมู่บ้าน ไปทำอนาจารกระทำชำเราเด็กหญิงจนสำเร็จความใคร่ไปคนละ 2 ครั้ง เวลาเดือนต่างกัน
หลังจากที่ ญาติๆหลอกถามน้องบี ว่า ตาวิโรจน์ หรือ ตาวิ และนายชัยวัฒน์ หรือ ตาชิต ทั้ง 2 คน ได้ทำอนาจารข่มขืนน้องไหม น้องบี ก็บอกว่า ตาทั้ง 2 ได้หลอกลวงไปทำอนาจารจริง ครั้งแรกคนที่ล่อลวงน้องไปทำอนาจาร คือ ตาชิต ตั้งแต่เดือน พ.ย. 67 ที่ผ่านมา และล่าสุด ตาวิ หลอกล่อจูงแขนน้องเข้าไปทำในห้องน้ำบ้านของตัวเองติดต่อกันถึง 2 ครั้ง ทั้ง ๆ ที่บ้านนายวิโรจน์ เป็นบ้านปูนชั้นเดียวอยู่หน้าบ้านของน้องบีแท้ ๆ เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเดื่อจึง ได้ขอหมายศาลจังหวัดภูเขียว ออกติดตามจับกุมตัวทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีในข้อหาภาคผู้เยาว์ รายแรก นายวิโรจน์ได้หลบหนีไปทำงานรับจ้างยังต่างจังหวัดประมาณ 15 วัน แล้วก็เดินทางกลับบ้านด้วยรถโดยสารประจำทางสายชัยภูมิ-หนองบัวแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไล่ล่าตามรวบตัวนายวิโรจน์ อายุ 47 ปี ได้ที่คิวรถ บขส.หนองบัวแดง ผู้ต้องหาพยายามขัดขืนไม่ยอมขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ต้องมีการกระชากลากจูงขึ้นรถใช้เวลาเกือบ 10 นาทีก่อนที่จะนำตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.บ้านเดื่อ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเดื่อ ก็ได้ติดตามตัวนายชัยวัฒน์ หรือ ตาชิต อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาอีกราย ได้ที่สำนักสงฆ์หลวงพ่อทันใจ ในพื้นที่ ตำบลบ้านเดื่อ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งทั้ง 2 ยังให้การปฏิเสธ
ทางด้าน นางลำดวน ย่าของน้องบี เล่าว่า ตนเลี้ยงหลานสาวมาตั้งแต่เล็ก เนื่องจากพ่อและแม่แยกทางกัน ซึ่งพ่อของน้องบีได้เสียชีวิตไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตนเลยต้องเลี้ยงดูน้องมาจนโต แต่กลับต้องมาถูกเพื่อนบ้านที่อยู่บ้างติดกัน ยังกล้ามาทำกับเด็กกำพร้าพ่อกำพร้าแม่ได้ถึงขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่น้องเขาเป็นเด็กไม่สมประกอบทางด้านสมองแท้ ๆ
จากการ สอบถามน้องบี ผู้เสียหาย เล่าว่า น้องได้ถูกตาชิต ล่อลวงไปกระทำชำเราที่บ้าน จนเสร็จความใคร่ 1 ครั้ง ซึ่งได้ค่ารางวัลครั้งละ 20 บาท บางครั้งโกหกว่าให้ไปนวดขา ก็หลอกทำอราจารเป็นครั้งที่ 2 พอเสร็จการทำอนาจารก็บอกน้องบีว่า อย่านำเรื่องไปบอกใครนะ ถ้าบอกจะถูกฆ่าให้ตาย น้องจึงไม่กล้าบอกคุณย่า ส่วนตาวิ ที่บ้านอยู่ติดกัน ได้หลอกให้เข้าไปในห้องบ้านตัวเอง ครั้งที่ 1 ผ่านไป พอครั้งที่ 2 ตาวิ ซึ่งกำลังจะจูงแขนน้องบีเข้าห้องน้ำ บังเอิญลูกสาวตาวิ มาเห็นเสียก่อน ตาวิ จึงไม่กล้าที่จะทำ ต่อมา ตาวิ ก็ทำอนาจารอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่ตาวิไม่มีเงินให้ แล้วบอกว่าอย่านำเรื่องไปบอกใคร ถ้ารู้จะฆ่าให้ตาย ตนกลัวมากจึงไม่กล้าบอกย่า
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา ตามหมายศาลจังหวัดภูเขียวที่ 59/2568 ลงวันที่ 2 เม.ย. 2568 ในฐานความผิดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และพยายามกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีโ ดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
ด้านประวัตินายวิโรจน์ ภรรยาได้เลิกลาไปหลายปีแล้ว เพราะเป็นคนติดเหล้า เสพยาเป็นประจำและไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง มีลูกสาวอายุ 17 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกัน ส่วนประวัตินายชัยวัฒน์ ซึ่งภรรยาได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว อยู่กับหลาน
ผู้สื่อข่าวจังหวัดชัยภูมิ รายงาน